โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เอสซีจีดีจ่อย้ายฐานผลิตไปเวียดนามแทน หนีภาษีทรัมป์ – พิษเศรษฐกิจในประเทศ

เดลินิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
เอสซีจีดีจ่อย้ายฐานผลิตไปเวียดนามแทน หนีภาษีทรัมป์ - พิษเศรษฐกิจในประเทศ หลังขยายตัวพุ่ง เปิดผลประกอบการทำกำไรสูงสุดรอบ 5 ไตรมาส

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ หรือเอสซีจีดี เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่า ประเมินว่า เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกของปี 68 เนื่องจากได้แรงหนุนจากการเติบโตจากเวียดนามเป็นหลัก เพื่อเข้ามาชดเชยยอดขายในไทยที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมปักหมุดเวียดนามเป็นฐานการผลิต และส่งออก เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากเวียดนามเพิ่มเป็น 30-40% ภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 68-70) จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 23-25%

ส่วนภาพรวมทั้งปี 68 คาดเติบโตลดลงเล็กน้อยจากปี 67 เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกยอดขายในไทยชะลอตัวลงค่อนข้างมาก ขณะที่แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังยอดขายในไทยคาดทรงตัว เพราะยังไม่เห็นปัจจัยบวกชัดเจนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ บริษัทจึงเดินหน้าลงทุนในเวียดนามด้วยแผนขยายกำลังการผลิต เพื่อเตรียมพร้อมเป็นฐานส่งออก เนื่องจากมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามยังเติบโตต่อเนื่อง และสามารถควบคุมต้นทุนให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ประกอบกับ เวียดนามบรรลุข้อตกลงทางภาษีกับสหรัฐด้วยอัตรา 20% แล้วด้วย

สำหรับความกังวลที่ไทยอาจถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ปัจจุบัน มองว่าผลกระทบทางตรงกับบริษัทค่อนข้างน้อย เนื่องจากสัดส่วนที่กลุ่มบริษัทส่งออกไปตลาดสหรัฐมีน้อยกว่า 1% ขณะที่ผลกระทบทางอ้อม หากทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวและตลาดซบเซาลง แต่การที่บริษัทเป็นผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียนที่มีโรงงานอยู่ในหลายประเทศแพื่อรองรับความผันผวน บริษัทสามารถใช้เวียดนามเป็นฐานการส่งออกได้ เนื่องจากมีศักยภาพแข่งขันในระดับโลก

"แม้เวียดนามจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 20% แต่เรามีฐานการผลิตใหญ่ในเวียดนามและมีต้นทุนที่ดี ดังนั้นเวียดนามจะเกิดโอกาสในการส่งออก ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์จากไทยที่ส่งไปสหรัฐส่วนหนึ่งประมาณ 1% ก็ย้ายการผลิตในไทยไปผลิตเวียดนาม และใช้ฐานการผลิตเวียดนามส่งออกไปแทน เราก็จะปิดโอกาสความเสี่ยงตรงนี้ ขณะที่ประเด็นข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ผลกระทบกับบริษัทไม่มากนัก เพราะบริษัทส่งสินค้าไปขายในกัมพูชาประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือนเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับพอร์ตรวม”

นายนำพล กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างธุรกิจมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (อิบิดา) อยู่ที่ 879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน มีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% ส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 4.8% สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาสที่ผ่านมา นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 67

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘ธรรมาภิแบรนด์’ สร้างภูมิคุ้มกันธุรกิจ‘ความจริง’ ชนะ ‘ความเฟค’ เสมอ

46 นาทีที่แล้ว

อุตุเตือนหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุม “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

46 นาทีที่แล้ว

เดลินิวส์ 1 ส.ค.วันนี้พาทูตนานาชาติดูกับตา ละเมิดข้อตกลง-เปิดสงคราม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดราม่าร้อนทรวง! โค้ชเซิร์ฟบอร์ด ‘มือไว’ ช่วยบังหน้าอกสาวบิกินี่หลุด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 330 จุด จับตาเจรจาการค้าสหรัฐฯ-ประเทศคู่ค้า

สยามรัฐ

ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/08/68 อัปเดตจาก 4 สถานี

สยามรัฐ

เปิดมาตรการเร่งด่วน! "คลัง-พาณิชย์" ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน "ไทย–กัมพูชา"

สยามรัฐ

ประธานสรรหาฯ เผยเตรียมเปิดรับสมัคร “ผอ.ออมสินคนใหม่” ส.ค.นี้

PostToday

‘ธรรมาภิแบรนด์’ สร้างภูมิคุ้มกันธุรกิจ‘ความจริง’ ชนะ ‘ความเฟค’ เสมอ

เดลินิวส์

ยูนิลีเวอร์-เครือซีพี ผนึกกำลังบนเวที GCNT EXPO 2025 โชว์วิสัยทัศน์พลิกเกมธุรกิจ

ฐานเศรษฐกิจ

แบรนด์เนมมือสอง โตแรง! ศก.ทรุด คนรุ่นใหม่แห่ใช้บริการ บิ๊กเนมไทย-ต่างชาติสปีดสาขาเพิ่ม

ฐานเศรษฐกิจ

อัปเดต วันหยุดธนาคารเดือนสิงหาคม 2568 ธนาคารหยุดวันไหนบ้าง

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...