‘ธีระชัย’ เตือนรัฐทบทวนใช้งบประมาณ 1.57 แสนล้าน เสี่ยงรั่วไหล
‘ธีระชัย’ เตือนรัฐทบทวนใช้งบประมาณ 1.57 แสนล้าน เสี่ยงรั่วไหล แนะชะลอ เผื่อใช้เยียวยาปัญหาภาษีสหรัฐฯ - ตรวจสอบให้ตรงกับความต้องการชุมชน
วันนี้ (22 ก.ค. 68) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวถึงกรณีที่กรมบัญชีกลางทำหนังสือถึงปลัด อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงาน ในการจัดซื้อจัดจ้างงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท กรณีมีผู้ยื่นประมูลรายเดียวก็ให้รับงานได้เลย
นายธีระชัย เตือนให้ระวังการรั่วไหลงบประมาณครั้งใหญ่ โดยเห็นว่าจุดอ่อนอยู่ที่ข้อปฏิบัติที่กำหนดว่า
“การที่จะถือว่าหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบข้อ 11 ในกรณีที่เป็นรายจ่ายงบกลางที่หน่วยงานของรัฐได้รับอนุมัติแล้ว ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 ข้อ 2.3 การได้รับอนุมัติแล้วตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณนั้น หมายถึงการได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ดังนั้นกรณีโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว หน่วยรับงบประมาณสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปได้”
การอนุมัติดังกล่าวมีข้อเสี่ยงต่อการรั่วไหล เนื่องจากกำหนดให้ผู้พิจารณาเสนอโครงการคือหน่วยรับงบประมาณดังระบุขั้นตอนในข่าวกระทรวงการคลังลงวันที่ 20 พ.ค. 68 โดยเสนอโครงการผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาตามที่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมอบหมาย จึงเป็นขบวนการพิจารณาจากด้านบนลงล่างที่ไม่ยึดโยงประชาชน แทนที่จะเริ่มด้วยการสำรวจความเห็นที่สะท้อนความต้องการของชุมชนจากล่างขึ้นบน
“การทำโครงการแบบเร่งรีบที่เริ่มประกาศในเดือนพฤษภาคมและเร่งจบในเดือนมิถุนายนนั้น เมื่อบวกกับการผ่อนคลายขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเช่นนี้ จะเปิดช่องให้นักการเมืองสามารถเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายผ่านรัฐมนตรี รวมทั้งไม่มีกระบวนการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน นอกจากนี้ รัฐบาลมีปัญหายังไม่ทราบผลการเจรจาภาษีอากรการค้ากับสหรัฐ จึงควรจะชะลอการใช้เงินตามโครงการนี้ไว้ก่อนจนเลยวันที่ 1 ส.ค. ไปก่อนเผื่อเอาไว้หากมีความจำเป็นหลังต้องเยียวยาจากผลเจรจาดังกล่าว” นายธีระชัย กล่าว