พรรคส้ม ไม่เอารถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นจะรู้คิดตามระยะทาง
15 ก.ค.2568- ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสดราม่าเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะมีการกำชับสส.ในพรรคเรื่องการจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรหรือไม่ ว่า จริงๆ ขณะนี้เท่าที่ติดตามก็ไม่ได้มีกระแสตีกลับอะไรที่รุนแรง และเรื่องนี้นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงษ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ก็ได้พูดค่อนข้างชัดเจนไปแล้ว แต่ต้องบอกว่าพรรค ปชน. เรามีนโยบายตั้งแต่สมัยที่เป็นพรรคก้าวไกลเรื่องการลดค่าขนส่งสาธารณะ ประเด็นของเรื่องนี้คือเราไม่ได้ค้านการลดค่าขนส่งสาธารณะ แต่เราต้องตั้งคำถามว่าฐานคิดในการทำนโยบายนั้นมาจากไหน
“จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่เคยทราบว่าตกลงแล้วตัวเลข 20 บาท คำนวณบนทางคิดอะไร นโยบายของพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ไม่ใช่แค่ 20 บาท แต่เราเสนอว่าเป็น 9-45 บาท และไม่ใช่แค่ระบบรถไฟฟ้าแต่รวมทุกอย่าง ทั้งนี้ ผมไม่แน่ใจว่า นโยบาย 20 บาทได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าหากขึ้นเอ็มอาร์ทีหนึ่งสถานี แล้วไปต่อบีทีเอสสองสถานี เงินที่เสียไป เขาต้องไปโปะที่สถานีแรกให้กับทั้งสองระบบหรือไม่ แทนที่เราจะคิดรวมทุกระบบ แล้วคุยเรื่องสัญญาสัมปทาน ในเมื่อประชาชนไม่ว่าจะขึ้นสายไหนก็ตาม สามสถานีก็ควรเสียเท่ากัน ไม่ว่าจะขึ้นสายเดียวหรือสองสาย“ นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เขากล่าวต่อว่า หากใครเคยไปประเทศญี่ปุ่นก็จะทราบว่ามีระบบเช่นนี้อยู่ ไม่ว่าเราจะขึ้นสายไหนก็มีการคิดค่าโดยสารตามระยะทางจริง ไม่ใช่แค่บอกว่าประชาชนจ่าย 20 บาท แต่เบื้องหลัง 20 บาทนั้น เอาภาษีไปอุดโดยไม่จำเป็น และนำไปสู่การให้นายทุน นายทุนก็ได้กำไรเช่นเดิม ทั้งนี้ ไม่เถียงว่าประชาชนได้ประโยชน์ หากเราย้อนกลับมาในฐานคิดที่สมเหตุสมผล เราก็คิดว่าสัญญากับเอกชนก็ควรมีความชัดเจนว่า ประชาชนต้องจ่ายตามระยะทาง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า หากจำเป็นต้องลดราคา แล้วรัฐอุดหนุน ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ต้องเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผล ยั่งยืนและมีความเป็นไปได้ อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญคือหากเราใช้ตัวเลขที่รัฐไปอุดหนุนอย่างสมเหตุสมผลเราก็จะเหลืองบประมาณที่จะไปกระจายขนส่งสาธารณะต่างๆ สู่ท้องถิ่นและต่างจังหวัด ไม่ใช่แค่กระจุกตัวอยู่ที่ในกรุงเทพฯ
ถามย้ำว่า หลังจากนี้จะมีการกำชับ สส. ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่างๆ เพิ่มขึ้นหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จริงๆ เรากำชับเรื่อยๆ อยู่แล้วในเรื่องของการสื่อสาร และเราก็อยากให้ผู้ที่เข้าใจในประเด็นนั้นๆ เป็นคนที่สื่อสาร แต่ก็อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้าง ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่เราก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด ไม่ได้มีความร้ายแรงอะไร.