ทำไมเวียดนามเลือก ‘ดานัง’ เมืองท่าเล็กๆ เป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกของประเทศและศูนย์การเงินโลก
รัฐบาลเวียดนามเลือกเมือง ‘ดานัง’ พัฒนาสู่ ‘เขตการค้าเสรีแห่งแรกของประเทศ’ จากเมืองท่าเล็กๆที่มีเพียงแหล่งท่องเที่ยว ปัจจุบันกำลังเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางเทคโนโลยี มีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาตั้งศูนย์ AI และเซมิคอนดักเตอร์ จึงน่าจับตาความสำเร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะรัฐบาลตั้งเป้าให้เป็น ‘ศูนย์การเงินนานาชาติ’
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลเวียดนามมีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งดานังจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045
‘ดานัง’ เป็นเมืองท่าตากอากาศเล็กๆ มีประชากรประมาณ 1.27 ล้านคน มากเป็นอันดับ 5 ของเวียดนามเป็นที่รู้จักจากรีสอร์ทริมชายหาด ทอดยาวกว่า 60 กิโลเมตร และมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ สวนสนุก Bana Hill ซึ่งเป็นที่ตั้งของสะพานลอยฟ้าสีทอง (Golden Bridge) และเคยเป็นสถานที่การจัดประชุมสุดยอดผู้นำAPEC เมื่อปี 2560
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาดานังกลายเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ เพราะเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม มีแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
แผนการพัฒนา ‘เขตการค้าเสรีดานัง’ จะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,881 เฮกตาร์ แบ่งออกเป็นพื้นที่เฉพาะทางที่มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น โซนการผลิต โลจิสติกส์ การค้าและบริการ เทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ และศูนย์นวัตกรรม แม้จะไม่ได้เชื่อมต่อกันโดยตรง แต่พื้นที่เหล่านี้ได้รับการพัฒนาครบวงจร ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย
มุ่งพัฒนาสู่ศูนย์การเงินนานาชาติ
ขณะที่แผนระยะยาวจะเป็นจุดเชื่อมสำคัญในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และยังถูกออกแบบให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานหลักของเมือง ได้แก่ ท่าเรือเหลียนเชียว (Lien Chieu Port) ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง (Da Nang International Airport) และแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก(East-West Economic Corridor)
ทั้งนี้ โครงการยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ดานังกำลังอยู่ระหว่างการควบรวมพื้นที่บางส่วนกับจังหวัดกว๋างนาม (Quang Nam) เพื่อขยายขอบเขตของการบริหารจัดการและศักยภาพทางเศรษฐกิจ
เขตการค้าเสรีดานังจึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาศูนย์การเงินนานาชาติดานัง (Da Nang International Financial Center) ที่รัฐบาลตั้งเป้าให้เป็นระบบเศรษฐกิจอัจฉริยะ ทันสมัย และมีความสามารถในการแข่งขันสูงในระดับนานาชาติ
รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามย้ำถึงความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของเขตการค้าเสรีดานังในฐานะเขตการค้าเสรีแห่งแรกของเวียดนาม (The first free trade zone in Viet Nam) และถือเป็นการเริ่มต้นที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลกลางในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ระยะยาวของดานังให้เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งใหม่ของเศรษฐกิจประเทศ
เบื้องต้นเขตการค้าเสรีดานังได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างหน่วยงานของนครดานังกับนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ บริษัท Terne Holdings Group บริษัท One Destination บริษัท BRG Group ถือเป็นก้าวแรกสำคัญที่จะเปลี่ยนนโยบายระดับมหภาคขับเคลื่อนการเติบโตอย่างแท้จริง
โดยเวียดนามจะมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ชีวเภสัช พลังงาน พลังงานหมุนเวียน และการบิน เป็นลำดับแรก ซึ่งจะเป็นเขตปลอดอากรที่เปิดรับผู้ขายสินค้าและบริการ เช่น การบริการด้านการต้อนรับ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และบริการด้านกีฬา อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
นักลงทุนจะใช้ประโยชน์จากท่าเรือเหลียนเจียว ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึก 1 ใน 3 แห่งของเวียดนาม โดยเหลียนเจียว ได้รับการออกแบบให้รองรับปริมาณการขนส่งในแต่ละปี 8.7-13.7 ล้านตันภายในปี 2030
นักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากแรงจูงใจทางภาษี ค่าเช่าที่ดินที่ลดลงหรือฟรี ผ่านการลงทุนเงื่อนไขการออกใบอนุญาตที่ง่ายขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ทั้งนี้ พื้นที่ของเมืองดานังปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้น 9 เท่าจากเดิมเป็นมากกว่า 11,000 ตารางกิโลเมตร หลังจากที่เมืองนี้รวมกับจังหวัดกว๋างนาม
อีกหนึ่งแรงจูงใจสำหรับนักลงทุนในขณะนี้คือดานังเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยี เช่น FPT ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเซมิคอนดักเตอร์ในเมืองเมื่อช่วงต้นปีส่งผลให้ดานังได้กลายมาเป็นผู้เล่นหลักในกลยุทธ์นวัตกรรมทางการเงินของเวียดนาม
รศ. ดร.Dang Tung Lam จากมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ดานัง ภายใต้สังกัดมหาวิทยาลัยดานัง กล่าวว่า ด้วยทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ใกล้กับศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของเอเชีย โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และคุณภาพชีวิตที่ดี ทำให้ดานังกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับภูมิภาค
แผนการพัฒนาเขตการค้าเสรีในดานังเป็นก้าวสำคัญสู่การบูรณาการทางการเงินและการค้าที่ดี และในทางปฏิบัติ ดานังเป็นผู้นำ 3 ด้านหลัก ไม่ว่าจะเป็น การเงินสีเขียวที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การเงินการค้าที่ขับเคลื่อนแบบเขตการค้าเสรีที่ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการควบคุม และการเงินและนวัตกรรมดิจิทัลที่ขับเคลื่อนโดยกลไก Sandbox ที่ช่วยให้สามารถทดลองใช้เทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ ได้อย่างปลอดภัย
“เมื่อมี IFC ( International Finance Corporation: บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่เน้นการลงทุนในภาคเอกชนของประเทศกำลังพัฒนา)ดานังจะยิ่งดึงดูดเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลังสำหรับการพัฒนาท้องถิ่น” เขากล่าว
ภาพ: Kien / Getty images
อ้างอิง