มีผลบังคับใช้แล้ว! เพิ่มเงินชดเชยว่างงาน ผู้ประกันตน ม.33 สูงสุด 9 พันบาท
เมื่อ 27 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 วรรคหนึ่ง และมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติ ประกันสังคม พ.ศ. 2533 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 1 แห่งกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน พ.ศ. 2547 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(1) ร้อยละหกสิบของค่าจ้างรายวันสำหรับการว่างงานเพราะเหตุถูกเลิกจ้าง โดยให้ได้รับครั้งละไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน"
ให้ไว้ ณ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเพราะเหตุถูกเลิกจ้าง เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราที่สูงขึ้น อันเป็นการบรรเทาภาระของผู้ประกันตนและเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสภาพการณ์ทางสังคมในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข การรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 ระบุ ประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานนั้น นอกจากจะให้การดูแลลูกจ้างที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกรณีถูกเลิกจ้างแล้ว ยังครอบคลุมถึงการว่างงานจากกรณีลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างอีกด้วย โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 90 วันต่อปีปฏิทิน
ซึ่งการรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานของผู้ประกันตนมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คือ จะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน โดยมีระยะเวลาการว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป พร้อมทั้งต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน https://unemploy.doe.go.th และรายงานตัวผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง