เคล็ดลับเลือก “เตารีดไอน้ำ” อย่างไร ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา
การเลือก เตารีดไอน้ำ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การรีดผ้าเป็นเรื่องง่าย ประหยัดเวลา และได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนถูกใจ ในปัจจุบันมีเตารีดไอน้ำหลากหลายประเภทในท้องตลาด ตั้งแต่แบบธรรมดาไปจนถึงแบบหม้อต้มไอน้ำ ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน Sanook จะมาแนะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อเตารีดไอน้ำ เพื่อให้คุณได้เตารีดที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง
ทำไมต้องเลือก เตารีดไอน้ำ?
เตารีดไอน้ำ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะมีประสิทธิภาพในการรีดผ้าที่ดีกว่าเตารีดแห้งทั่วไป ไอน้ำจะช่วยคลายเส้นใยผ้า ทำให้รีดผ้าได้เรียบง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และยังช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าที่ยับง่าย หรือผ้าที่มีเนื้อหนา เตารีดไอน้ำจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและออกแรงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ประเภทของเตารีดไอน้ำ: เลือกแบบไหนดี?
เมื่อพูดถึง เตารีดไอน้ำ เราสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้:
1. เตารีดไอน้ำแบบธรรมดา (Steam Iron)
เป็นเตารีดไอน้ำที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด มีถังเก็บน้ำในตัวเตารีด ทำงานโดยการให้ความร้อนแก่น้ำจนเกิดไอน้ำออกมาทางรูใต้แผ่นความร้อน เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไปที่มีปริมาณผ้าไม่มากนัก หรือสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
ข้อดี: ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง เคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อเสีย: ปริมาณไอน้ำอาจไม่สม่ำเสมอเท่าแบบหม้อต้ม ต้องเติมน้ำบ่อยครั้งเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน
2. เตารีดไอน้ำแบบหม้อต้มไอน้ำ (Steam Generator Iron)
เตารีดประเภทนี้จะมีหม้อต้มไอน้ำแยกต่างหากจากตัวเตารีด ทำให้สามารถผลิตไอน้ำได้อย่างต่อเนื่องและมีแรงดันไอน้ำสูงกว่าเตารีดไอน้ำแบบธรรมดามาก เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ร้านซักรีด หรือผู้ที่ต้องรีดผ้าจำนวนมากและต้องการความรวดเร็วเป็นพิเศษ
ข้อดี: แรงดันไอน้ำสูง รีดผ้าได้เรียบเร็วและง่ายดาย ประหยัดเวลา ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย มีถังเก็บน้ำขนาดใหญ่
ข้อเสีย: มีขนาดใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า ราคาแพงกว่า ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากกว่า
3. เตารีดไอน้ำแบบพกพา/ไอน้ำแนวตั้ง (Handheld Garment Steamer)
เป็นเตารีดไอน้ำที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เน้นการใช้งานแบบพกพา หรือใช้รีดผ้าที่แขวนอยู่โดยไม่ต้องวางบนโต๊ะรีดผ้า เหมาะสำหรับรีดผ้าที่ยับเล็กน้อย หรือรีดเสื้อผ้าที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น เสื้อเชิ้ต เดรส หรือผ้าม่าน
ข้อดี: พกพาสะดวก ใช้งานง่าย รวดเร็ว เหมาะสำหรับรีดผ้าที่แขวน
ข้อเสีย: แรงดันไอน้ำไม่สูงเท่าเตารีดแบบอื่น ไม่เหมาะกับการรีดผ้าที่ยับมาก หรือผ้าเนื้อหนามากๆ
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกซื้อ เตารีดไอน้ำ
นอกจากการพิจารณาประเภทของ เตารีดไอน้ำ แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรคำนึงถึงเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมที่สุด:
กำลังไฟ: ยิ่งกำลังไฟสูง (วัตต์สูง) เตารีดยิ่งร้อนเร็วและผลิตไอน้ำได้ดี
วัสดุหน้าเตารีด: ควรเลือกหน้าเตารีดที่ทำจากวัสดุคุณภาพดี เช่น เซรามิก สเตนเลส หรือ Teflon เพื่อให้รีดลื่น ไม่ติดผ้า และทนทานต่อรอยขีดข่วน
ปริมาณไอน้ำ/แรงดันไอน้ำ: หากต้องการรีดผ้าให้เรียบเร็วและมีประสิทธิภาพ ควรเลือกเตารีดที่มีปริมาณไอน้ำพ่นออกมาได้มาก หรือมีแรงดันไอน้ำสูง
ความจุแทงก์น้ำ: หากเป็นเตารีดไอน้ำแบบธรรมดา ควรเลือกแทงก์น้ำที่จุได้มากพอสมควร เพื่อลดความถี่ในการเติมน้ำ
คุณสมบัติเสริม: เช่น ระบบป้องกันน้ำหยด, ระบบทำความสะอาดตะกรัน, ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน, ฟังก์ชันรีดไอน้ำแนวตั้ง, หรือสายไฟที่หมุนได้ 360 องศา เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย
งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการ
การเลือก เตารีดไอน้ำ ที่ดีที่สุดคือการเลือกเตารีดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และปริมาณการใช้งานของคุณ อย่าลืมเปรียบเทียบคุณสมบัติและอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้เตารีดที่คุ้มค่าและใช้งานได้อย่างมีความสุข