"กอบศักดิ์" แนะไทยวางตัวเป็นกลาง จีน-สหรัฐฯ สร้างแต้มต่อ ดึงลงทุนระยะยาว
"กอบศักดิ์" แนะไทยวางตัวเป็นกลางระหว่างจีน-สหรัฐฯ สร้างแต้มต่อในการดึงดูดการลงทุนระยะยาว
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยภายในการบรรยายในโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง ประจำปี 2568 “รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้สู่ความยั่งยืน“ ว่า กรณีการวางตัวของประเทศไทยระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน นั้น เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต
สำหรับประเทศไทยคำถามเหล่านี้จะเกิดขึ้นมากขึ้นเช่นกัน เช่น กรณีฐานทัพที่พังงา หรือโครงการในพื้นที่อู่ตะเภาในอนาคต ดังนั้น ประเทศไทยควรเตรียมจุดยืนของตนไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะจุดยืนที่ ไม่เลือกข้าง และรักษาความเป็นกลางให้ได้มากที่สุด
"คำถามนี้ถูกโยนเข้าสู่เวทีต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แม้แต่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ก็ยังถูกถามระหว่างการเยือนสหรัฐฯว่าจะวางตัวอย่างไรระหว่างสองขั้วอำนาจ แต่ถึงอย่างนั้นฟิลิปปินส์ที่ชัดเจนว่าเลือกสหรัฐฯ แม้จะได้ผลประโยชน์บางอย่าง เช่น อัตราภาษีที่ดีกว่าไทย แต่ก็ต้องแลกมากับความไม่แน่นอน นักลงทุนกังวลว่า หากเกิดสงครามขึ้น ฟิลิปปินส์อาจกลายเป็นเป้าหมายเช่นเดียวกับออสเตรเลียที่ถูกตั้งคำถามว่า หากเกิดเหตุการณ์ในไต้หวัน จะยืนอยู่ข้างใด” ดร.กอบศักดิ์ กล่าว
โดยความเป็นกลางของประเทศไทยจะกลายเป็นแต้มต่อที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุนระยะยาว เพราะนักลงทุนทั่วโลกต้องการประเทศที่สามารถค้าขายกับทุกฝ่ายได้อย่างไร้ข้อจำกัด
“ถ้าเราเข้าข้างอเมริกา บริษัทที่อยากค้าขายกับจีนก็อาจไม่กล้ามาลงทุน ถ้าเราชัดเจนว่าเข้าข้างจีน บริษัทที่ค้าขายกับอเมริกาหรือยุโรปก็อาจลังเล ดังนั้น ความเป็นกลางคือคำตอบที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้ และเราควรเริ่มพูดคุย ถกเถียง และตกผลึกแนวคิดกันให้มากขึ้นตั้งแต่ตอนนี้” ดร.กอบศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้จุดยืนเรื่องความเป็นกลางจะไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจระยะยาวของไทย แต่ยังช่วยให้ประเทศไทยมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์บนเวทีระหว่างประเทศอย่างมั่นคงด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "กอบศักดิ์" แนะไทยวางตัวเป็นกลาง จีน-สหรัฐฯ สร้างแต้มต่อ ดึงลงทุนระยะยาว
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th