Jensen Huang แห่ง Nvidia ขึ้นแท่นซีอีโอทรงอิทธิพลยุคทรัมป์ 2.0 แซงหน้า Tim Cook
Jensen Huang แห่ง Nvidia ขึ้นแท่นซีอีโอทรงอิทธิพลยุคทรัมป์ 2.0 แซงหน้า Tim Cook ท่ามกลางศึก AI และการค้าระหว่างสหรัฐ–จีน
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.17 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Jensen Huang ขึ้นแท่นซีอีโอทรงอิทธิพลเหนือ Tim Cook ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีสหรัฐ–จีน โดยในช่วงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนระหว่างรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์สมัยแรก ซีอีโอของ Apple อย่าง Tim Cook ได้สร้างชื่อในฐานะนักเจรจาชั้นยอดที่สามารถรักษาสัมพันธ์กับทั้งประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐบาลจีนได้อย่างราบรื่น
Apple จึงรอดพ้นจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ และยังเติบโตในจีนต่อเนื่อง ขณะที่ Cook ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการทูตธุรกิจตัวแทนอเมริกันคนสำคัญในสายตาปักกิ่ง
แต่ในรัฐบาลทรัมป์สมัยที่ 2 ภาพลักษณ์กลับเปลี่ยนไป โดยซีอีโอที่กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองกลับกลายเป็น Jensen Huang แห่ง Nvidia ผู้นำด้านชิป AI ซึ่งล่าสุดเพิ่งแซงหน้า Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในอเมริกา
Dan Ives จากบริษัท Wedbush วิเคราะห์ว่า “Huang กลายเป็นบุคคลระดับโลก และมีบทบาททางการเมืองเพิ่มขึ้นจากความสำเร็จของเขาในปฏิวัติ AI” เขากล่าวเสริมว่า “เพราะตอนนี้มีเพียงชิปของ Nvidia เท่านั้นที่ขับเคลื่อนการปฏิวัติ AI ได้”
การกลับมาขาย H20 ในจีน: ชัยชนะเชิงการเมืองของ Huang
สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างที่ Huang เดินทางเยือนปักกิ่ง Nvidia ได้ประกาศเตรียมกลับมาจำหน่ายชิป H20 ให้จีนอีกครั้ง หลังจากที่เคยถูกสหรัฐจำกัดการส่งออกช่วงต้นปี โดย Huang ได้รณรงค์คัดค้านมาตรการนี้อย่างเปิดเผย และมีรายงานว่าเขาได้พบกับทรัมป์ที่กรุงวอชิงตันก่อนเดินทางไปจีน
หลายฝ่ายเชื่อว่าการกลับลำของรัฐบาลสหรัฐในการอนุญาตขาย H20 อีกครั้งเป็นผลจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายบอกกับ CNBC ว่าการล็อบบี้ของ Huang มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง
ปีนี้ Huang ได้พบกับทรัมป์หลายครั้ง รวมถึงร่วมเดินทางกับทรัมป์ไปตะวันออกกลางในเดือนพฤษภาคม ซึ่งนำไปสู่ดีล AI มูลค่ามหาศาลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่จะซื้อชิป AI ขั้นสูงของ Nvidia หลายแสนชิ้น ข้อตกลงนี้ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ของสหรัฐในการขยายอิทธิพลเทคโนโลยี และแข่งขันกับบริษัทจีนอย่าง Huawei
หลังจากการเดินทางดังกล่าว Huang ได้ออกมาโต้แย้งอย่างชัดเจนว่า การจำกัดการส่งออกชิปจะทำลายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และเปิดทางให้บริษัทจีนเติบโตแทน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ Huang + Sacks มีบทบาทชี้ขาด
รายงานจาก New York Times ระบุว่า Huang ได้ผลักดันแนวคิดนี้กับเจ้าหน้าที่สหรัฐอย่างต่อเนื่อง และความคิดเห็นของเขาได้รับการสนับสนุนจาก David Sacks ข้าราชการอาวุโสด้าน AI และคริปโตของทำเนียบขาว
Paul Triolo จากกลุ่ม DGA-Albright Stonebridge กล่าวว่า Huang และ Sacks ต่างเชื่อว่า “การจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีที่ไม่ใช่ชั้นสูง เช่น GPU บางรุ่น จะยิ่งผลักให้บริษัทจีนหันไปใช้เทคโนโลยีในประเทศ และทำให้สหรัฐสูญเสียอิทธิพล” ซึ่งเป็นเหตุผลที่อาจทำให้รัฐบาลยอมเปิดทางให้ H20 อีกครั้ง
แม้ยังไม่แน่ชัดว่า Nvidia จะกลับมาเดินสายการผลิต H20 หรือเพียงขายสต๊อกเก่า แต่ก็ถือว่าเป็นรายได้ก้อนใหญ่ที่ช่วยกู้ความเชื่อมั่นจากลูกค้าในจีน โดย Nvidia เคยบันทึกขาดทุนจากสต๊อก H20 กว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม
Huang ยังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “ทุกโมเดล AI เชิงพลเรือนควรทำงานบนเทคโนโลยีของสหรัฐเพื่อสนับสนุนให้โลกเลือกอเมริกา”
ไม่ใช่ Musk ไม่ใช่ Cook อีกต่อไป
เมื่อทรัมป์ชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน หลายคนคาดว่า Elon Musk แห่ง Tesla จะเป็นผู้นำซีอีโอในรัฐบาลใหม่ เพราะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทรัมป์ และมีธุรกิจในจีน แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่าง Musk กับทรัมป์กลับร้าวฉานในที่สาธารณะ
ขณะที่ Cook ก็เริ่มเผชิญแรงต้านจากรัฐบาลใหม่เช่นกัน ทรัมป์เคยตำหนิว่า “มีปัญหากับ Tim Cook” เพราะ Apple ย้ายสายการผลิตไปอินเดีย แม้จะประกาศลงทุนในสหรัฐถึง 5 แสนล้านดอลลาร์
Apple เร่งย้ายฐานผลิต iPhone ไปอินเดียเพื่อลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับทรัมป์ ล่าสุดที่ปรึกษา Peter Navarro ยังวิจารณ์ว่า Cook ดำเนินการช้าเกินไป
Ray Wang จาก Constellation Research สรุปว่า “ในรัฐบาลทรัมป์รอบแรก Apple และ Cook เป็นเบอร์หนึ่ง แต่ตอนนี้ Nvidia และ Huang คือผู้ทรงอิทธิพลตัวจริง เพราะเกือบทุกอย่างตอนนี้ต้องพึ่งชิปของ Nvidia”
ความเสี่ยงยังอยู่
อย่างไรก็ตาม Paul Triolo เตือนว่า แม้ Huang จะบริหารความสัมพันธ์กับทั้งจีนและสหรัฐได้อย่างแยบยล แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไรต่อข้อจำกัดด้านชิปในอนาคต
“รัฐบาลเปลี่ยนเป้าหมายหลายครั้งแล้ว ทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกับการออกแบบใหม่และจองกำลังผลิตใหม่”
Reva Goujon จาก Rhodium Group ก็เตือนเช่นกันว่า “ตอนนี้ Nvidia เปลี่ยนจากเป้าโจมตีของมาตรการควบคุมชิปมาเป็นผู้ชี้นำ แต่คำถามคือสถานะนี้จะอยู่นานแค่ไหน?”
ปัจจุบันสหรัฐกำลังสอบสวนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเก็บภาษีทั้งอุตสาหกรรมอีกระลอก โดยแม้ว่า Nvidia พยายามย้ายการผลิตบางส่วนมายังสหรัฐ แต่โรงงานส่วนใหญ่ยังอยู่ในไต้หวัน
สุดท้าย Cook และ Apple อาจกลายเป็นกรณีศึกษาให้ Huang ได้เรียนรู้ว่า การทำธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่ระหว่างสองชาติมหาอำนาจนั้น ไม่เคยง่ายเลย
อ้างอิง : cnbc.com