สิงหาเดือด จับตา 3 คดีการเมือง
เริ่มที่คดีแรก คดีชั้น 14 ศาลฎีกา นัดไต่สวนพยานนัดสุดท้ายวันที่ 30 ก.ค. คาดว่าจะมีคำพิพากษา ในกลางเดือนถึงปลายเดือน ส.ค. 2568
คดีที่สอง คือคดีมาตรา 112 ศาลอาญานัดคำพิพากษาคดีมาตรา112 ซึ่ง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย กรณีให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศ ประเทศเกาหลีใต้ในลักษณะพาดพิงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเมื่อปี 2558 โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 22 ส.ค. 2568 เวลา 10.00 น. แต่ที่น่าสนใจคดีที่ 3. คลิปเสียงสนทนาระหว่าง “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา กับ“แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ข้อกล่าวหา เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง ทำความเสื่อมเสียต่อชาติ โดยเส้นตายสิ้นเดือน ก.ค. 68 ครบกำหนดยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ คาดหมาย ศาลอาจมีคำวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ พ้นหรือไม่พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือน ส.ค. 2568
โดยคดีมาตรา 112 แม้ “ทักษิณ” จะแสดงความมั่นใจว่าไม่น่ากังวล แต่อะไรก็ไม่แน่นอน ความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ต้องลุ้นว่าคำพิพากษาจะออกมาแบบไหน“คุกหรือไม่คุก” และที่สำคัญไม่อาจละสายตา เพราะคดีนี้มีอัตราโทษสูง คงต้องรอฟังผลว่าจะออกมาแบบไหน ด้วยใจระทึก ชี้ชะตา “ทักษิณ” ลุ้นหนัก ว่าจะรอดหรือร่วง เพราะหากโดนตัดสินให้มีความผิด แม้จะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่จะอยู่ในสถานะสุ่มเสี่ยงทันที เนื่องจากการนิรโทษกรรมผู้กระทำผิดคดี ม.112 ร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอเข้าสภาฯ ถูกตีตกไปแล้ว ดังนั้นประตูที่เคยหวังว่า จะใช้ช่องนิรโทษกรรมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองจึงถูกปิดตาย
สุดท้ายคดีถอดถอน “แพทองธาร ชินวัตร” ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอขยายเวลาทำคำชี้แจงของ “แพทองธาร” 15 วันซึ่งจะทำให้ครบกำหนดส่งคำชี้แจงข้อกล่าวหาในวันที่ 31 ก.ค.จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำชี้แจงของนายกฯให้ผู้ร้อง (36 สว.) หักล้างข้อชี้แจงภายใน 15 วัน ก่อนวันที่ 16 ส.ค. จะครบกำหนดของ สว. ที่จะส่งข้อหักล้างคำชี้แจงของนายกฯ
โดยหลังจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะส่งข้อหักล้างของ 36 สว. ให้นายกฯ หากต้องการแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จะต้องส่งศาลทันทีหลังจากนั้น “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะอภิปรายคำร้อง คำชี้แจง ข้อหักล้าง หากสิ้นข้อสงสัยทั้งหมด และนัดลงมติ โดยจะทอดเวลาไปไม่น้อยกว่า 15 วัน รวมขั้นตอนทั้งหมด จะใช้เวลาราว 45 - 60 วัน หากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ “แพทองธาร” พ้นผิดสามารถกลับไปมีอำนาจเต็มในฐานะนายกฯ แต่หากให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ จะต้องมีการโหวตเลือกนายกฯในตระกร้ากันใหม่มีตั๋ว “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย หรืออาจต้องเปลี่ยนเกมหยิบชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” จาก“พรรคร่วมรัฐบาล” มานั่งเก้าอี้ผู้นำคนใหม่
ทุกคดีบีบรัดสองพ่อ-ลูกตกที่นั่งลำบาก ในกระดานอำนาจการเมืองในประเทศไทย ลุ้น“ทักษิณ-แพทองธาร” เดิมพันคดีจะรอด-ร่วงชะตาการเมืองกำลังอยู่ในภาวะ“ง่อนแง่น” เต็มที ดิ้นรนอย่างหนักในสถานการณ์ดำดิ่ง เพื่อให้ตัวเองรอดเดิมพันใหญ่ “ตระกูลชินวัตร” ต้องลุ้นใครว่าจะเป็นคนที่ถูกเลือกให้อยู่ต่อ หรือเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ที่ต้องสังเวยให้กับเกมในกระดานอำนาจการเมืองในครั้งนี้คงต้องรอติดตามอีกไม่นานเลยรอ.