สาวอังกฤษวัย 18 ร่ำไห้ ในศาลจอร์เจีย อ้าง ถูกทรมาน-บังคับขนยาจากไทย
สาวอังกฤษวัย 18 ปี ร่ำไห้ในศาลจอร์เจีย อ้างถูกทรมาน-บังคับขนยาเสพติดจากไทย โชว์รอยแผลเป็นยืนยัน ทนายเผยถูกจัดฉากและตำรวจไทยอาจเกี่ยวข้อง แม้ตั้งครรภ์แต่ศาลปฏิเสธการประกันตัว
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน เบลล่า เมย์ คัลลีย์ (Bella May Culley) วัยรุ่นสาวชาวอังกฤษวัย 18 ปี ได้ขึ้นให้การทั้งน้ำตาต่อศาลในประเทศจอร์เจียว่า เธอถูกทรมานและบังคับ ให้ลักลอบขนยาเสพติดมาจากประเทศไทย หลังจากที่ถูกจับกุมพร้อมกระเป๋าเดินทางที่อัดแน่นไปด้วยกัญชา และแฮชฮิช ที่สนามบินทบิลิซี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ คัลลีย์ ยังได้โชว์รอยแผลเป็นบนแขนต่อศาลเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันคำให้การ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เธออาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต
การพิจารณาคดีเบื้องต้นที่ ศาลในกรุงทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย คัลลีย์ ซึ่งมีครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจ ได้กล่าวต่อศาลด้วยเสียงสั่นเครือว่า “หนูไม่อยากทำสิ่งนี้ หนูถูกบังคับด้วยการทรมาน หนูแค่อยากจะท่องเที่ยว อยากใช้ชีวิตกับครอบครัว หนูเป็นนักศึกษาพยาบาล หนูไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผลตรวจเลือดของหนูก็ยืนยันได้ว่าสะอาด หนูแค่อยากทำให้ครอบครัวภูมิใจ แต่เรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้น”
ทนายความของ คัลลีย์ นายมัลคาซ ซาลาไกอา ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ ที่ลูกความของเขาจะก่ออาชญากรรมนี้ และเธอถูกจัดฉากโดยกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายในประเทศไทย
ทนายความได้แย้งคำคัดค้านการประกันตัวของอัยการ โดยอ้างว่า คัลลีย์ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือทำลายหลักฐาน พร้อมทั้งเปิดเผยว่าขณะนี้ คัลลีย์ กำลังตั้งครรภ์กับแฟนหนุ่มชาวอังกฤษ และได้ขอให้โชว์รอยแผลเป็น ที่ยาวเหมือนงู บนแขนขวาต่อศาล ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นรอยแผลที่เกิดขึ้นก่อนที่จะถูกบังคับให้นำกระเป๋าเดินทางดังกล่าว ซึ่ง คัลลีย์ ไม่เคยได้สัมผัสด้วยซ้ำ
ทนายฝั่งคัลลีย์ อ้างว่า “คัลลีย์มาถึงประเทศไทยพร้อมกับเงินติดตัวแค่ 70 ปอนด์ (ราว 3,300 บาท) ถูกบังคับให้เดินทางจากไทยไปชาร์จาห์ แล้วก็กลับมาไทยอีกครั้ง โดยมีคนอื่นเป็นคนถือกกระเป๋ามาตลอด คัลลีย์ได้แค่พาสปอร์ต และถูกสั่งให้ไปรอพบกับคนบางคนตามรูปถ่าย แต่การนัดพบก็ไม่เคยเกิดขึ้นเพราะถูกจับกุมเสียก่อน”
ทนายยังกล่าวอีกว่า คัลลีย์ พยายามจะขอความช่วยเหลือจากตำรวจนายหนึ่งในไทย แต่กลับกลายเป็นว่าตำรวจคนดังกล่าวเป็นสมาชิกของแก๊งอาชญากรเสียเอง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาได้ปฏิเสธคำร้องขอประกันตัว และจะมีนัดพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 10 กรกฎาคม
ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของ คัลลีย์ ได้แจ้งว่าเธอหายตัวไปอย่างกะทันหันขณะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีข่าวออกมาในอีกไม่กี่วันต่อมาว่าถูกจับกุมที่สนามบินทบิลิซี
สื่อท้องถิ่นในจอร์เจีย ได้เผยแพร่ภาพจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร เป็นกระเป๋าเดินทางที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาที่ถูกซีลอย่างดี 34 ห่อ และแฮชฮิชอีก 20 ห่อ ซึ่งตามกฎหมายของจอร์เจีย หาก คัลลีย์ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี หรืออาจถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต
ล่าสุด กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยพบว่า คัลลีย์ เป็นชาวสัญชาติอังกฤษ เดินทางออกไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 เวลา 07.00 น. ด้วยสายการบิน Air Arabia เที่ยวบิน G9822 จากสุวรรณภูมิ ปลายทาง เมืองชาร์จาห์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลาเครื่องออก 08.55 น. โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในขณะที่ คัลลีย์ เดินผ่านช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (ABC) นั้น ปรากฏว่า คัลลีย์ เดินผ่านช่องตรวจฯ ไปโดยปกติ โดยไม่ได้มีการขอความช่วยเหลือใด ๆ จากเจ้าหน้าที่ และไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ ตม. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดบังคับ หรือข่มขู่ให้ขนยาเสพติดออกนอกประเทศแต่อย่างใด
เชื่อว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นเพียงการกล่าวอ้างของคัลลีย์ เพื่อบรรเทาโทษเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทาง บก.ตม.2 จะดำเนินการจัดทำบันทึกลงระบบ ตม. ว่า ผู้ต้องหาดังกล่าวเข้าข่ายเป็นบุคคลต้องห้าม เนื่องจากมีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเข้ามาเพื่อ การค้ายาเสพติดให้โทษตาม ม.12 (พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง