สกลนครปล่อยขบวนชุดเครื่องจักรกลปฏิบัติการในภารกิจพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังภัยสงคราม
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสกลนคร (หลังเก่า) อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนคาราวานชุดเครื่องจักรกลปฏิบัติการในภารกิจ พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง (ภัยสงคราม) เพื่อเตรียมการในส่วนเครื่องจักรกลสาธารณภัยสำหรับดูแลช่วยเหลือและอพยพประชาชนในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (ภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ) ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายวิชาญ แท่นหิน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร นายเอกภพ โสภณ ปลัดจังหวัดสกลนคร พ.อ.บัลลังก์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผอ.รมน.จังหวัดสกลนคร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พล.อ.วิบูลย์พงศ์ กลั่นเสนาะ ทหารผ่านศึกอาวุโส หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสกลนคร นายอำเภอเมืองสกลนคร ผู้แทน ผกก.ตชด.23 ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี
นายวิชาญ กล่าวว่า ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก สำหรับด้านการช่วยเหลือประชาชน ได้มีการอพยพประชาชนในเขตพื้นที่ จำนวน 8 อำเภอ 4 จังหวัดได้แก่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์,อ.พนมดงรัก,อ.กาบเชิง,อ.สังขะ,จ.สุรินทร์,อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำขุ่น,อ.น้ำยืน,อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ไปยังพื้นที่รวมพลเรือนตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง นำมาซึ่งความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร นำชุดเครื่องจักรกลปฏิบัติการในภารกิจพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง (ภัยสงคราม) พร้อมเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมการในส่วนเครื่องจักรกลสาธารณภัย สำหรับดูแลช่วยเหลือและอพยพประชาชนในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (ภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ) ในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 7 รายการ รวม 14 คัน ได้แก่ รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขนาด 200 kVA. จำนวน 1 คัน รถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ ขนาด 12,000 ลิตร จำนวน 1 คัน รถตรวจการณ์ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก2 ตอน จำนวน 1 คัน รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 7 คัน รถผลิตน้ำดื่ม จำนวน1 คัน รถประกอบอาหารพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ จำนวน 15 นาย
ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบให้พี่น้องประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก และประชาชนต้องอพยพจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 100,000 คน ไปยังศูนย์พักพิง 295 แห่ง ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบกับสถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร จึงได้ร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร จัดส่งชุดเครื่องจักรกลปฏิบัติการในภารกิจพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ไปให้การสนับสนุนเพื่อพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และขอร่วมส่งกำลังใจไปยังหทารหาญทุกนาย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ แคล้วคลาดปลอดภัย ปฏิบัติภารกิจหน้าที่สำเร็จลุล่วงด้วยดี ซึ่งจังหวัดสกลนคร ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้มีการเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่องต่อไป