ทหาร เตรียมนำคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ลงพื้นที่อุบลฯ พรุ่งนี้
ทหาร เตรียมนำคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ลงพื้นที่อุบลฯ พรุ่งนี้ พร้อมนำเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิดคุยใน RBC
พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ประจำวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า สถานการณ์โดยทั่วไปของบริเวณชายแดนถือว่าอยู่ในสภาวะปกติ แต่ฝ่ายไทยได้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สังเกตเห็นการปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาเสริมที่มั่นแข็งแรงในพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
นำคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ลงพื้นที่อุบลฯ
ขณะที่การปฏิบัติของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน ที่เป็นผลของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) สมัยวิสามัญที่ผ่านมา โดยการนำของผู้ช่วยทูตทหารของประเทศอาเซียน ที่จะลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ผลกระทบต่างๆในพื้นที่ จนถึงความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อแสดงความโปร่งใสและความจริงใจยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทย ว่าเป็นไปตามหลักปฏิบัติของสากล
โดยกองบัญชาการกองทัพไทย มีแผนที่จะนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 14 สิงหาคม และหลังจากการลงพื้นที่แล้วเสร็จ วันที่ 15 สิงหาคม 2568 จะมีการสรุปผลการดำเนินการ และทบทวนแผนการปฏิบัติ ที่จะทำเป็นแผนปฏิบัติต่อเนื่องในเวลาต่อไป
ขณะที่การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการเสริมสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือความร่วมมือใดๆ จากทางกัมพูชาเท่าที่ควร ล่าสุดได้ประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือในการปฏิบัติการเก็บกู้ทุนระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ RMAC ซึ่งกัมพูชาเป็นประธาน
ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายกัมพูชา และ RMAC แสดงความจริงใจในการสนับสนุน ภารกิจเก็บกู้ทุกระบบทางแนวชายแดนนี้ด้วย เนื่องจากยังพบว่า มีทหารกัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุ่นระเบิดนั้นๆ ถือเป็นภัยคุกคาม ที่ไม่ใช่แค่กำลังพลทหารหรือฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น แต่มีผลกระทบและเป็นอันตรายต่อบุคคล ประชาชนตามแนวชายแดน
โดยแนวทางการทำงาน จะให้ RMAC ทำงานควบคู่กับการดำเนินการของ TMAC หรือศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทย เพื่อเก็บกู้ให้ได้มากที่สุดและฟื้นฟูพื้นที่ให้มีความปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
ขณะที่คณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (Regional Border Committee - RBC) ถือเป็นหนึ่งในข้อตกลง GBC ครั้งที่ผ่านมา 7 สิงหาคม 2568 ด้วยกำหนดว่าให้มีการจัดการประชุมอ่าน RBC ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากที่มีการลงนามข้อตกลง ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 รวมไปถึงกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้มีการหารือกับทางฝ่ายกัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง
นำเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิดหารือในการประชุม RBC
โดยล่าสุดได้มีการแจ้งมาว่าจะมีการกำหนดห้วงเวลาของการจัดการประชุม RBC ของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ในวันที่ 16 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ส่วนกองทัพภาคที่ 1 และทัพภาคที่ 2 อยู่ในห้วงเวลาปลายเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ขอให้ประชาชนสบายใจและมั่นใจว่ากองทัพเป็นการประสานงานอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในหัวข้อที่จะกำหนดไว้ในการประชุม RBC คือเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด จึงขอความจริงใจจากทางฝ่ายกัมพูชาในเรื่องการให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน
รายงานสถานการณ์กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา 15 ส.ค.
ด้านนางมาระตี กล่าวว่า การดำเนินการด้านการต่างประเทศ ในกรณีทุ่นระเบิดสังหารบุคคล น่าเสียใจว่าภายในไม่กี่วันมีเกิดเหตุ ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดถึง 2 ครั้ง ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา เป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติและละเมิดพันธะกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา รวมถึงมีการทำหนังสือประท้วงไปยังทางการกัมพูชาเพื่อให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยมีการทำหนังสือประท้วงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และ ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้องค์การระหว่างประเทศที่ให้การช่วยเหลือเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแก่กัมพูชาเป็นจำนวนมาก พิจารณาทบทวนความช่วยเหลือดังกล่าว โดยคำนึงถึงการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ละเมิดอนุสัญญาอย่างร้ายแรง โดยกระทรวงการต่างประเทศในชี้แจงให้ประชาคมโลกรับทราบถึงข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและจะชี้แจงต่อไป
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ช่วงเช้า จะเรียกรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเข้ารับฟังบรรยายสรุป เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ต่างๆเป็นการเฉพาะ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองครั้ง ขัดต่อความจริงใจในการแก้ไขปัญหาและการตกลงเจรจาหยุดยิงเมื่อการ ประชุม GBC ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งไทยได้ทำหนังสือทักท้วงต่อคณะผู้สังเกตการณ์ไปแล้ว เพื่อพิจารณาในเรื่องนี้
นางมาระตี ย้ำว่า ไทยมุ่งเน้นให้ข้อเท็จจริงทั้งแก่ประชาชนและประชาคมโลกสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาต่อไปจึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดตามข้อตกลงจากการประชุม GBC ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันตอบโต้และไม่สร้างข้อมูลเท็จ รวมทั้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมพื้นที่และไทยละเมิดเงื่อนไขการเจรจาหยุดยิง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ภูมิธรรม’ ย้ำไทยยื่นเรื่องถึง UN กัมพูชาไม่มีเจตนาให้เกิดสันติภาพ
- กองทัพภาค 2 ย้ำ ‘อย่าตื่นตระหนก’ ยังไม่มีเหตุปะทะ หลังประชาชนแห่อพยพ
- เผย 11 วัน เก็บกู้ระเบิด-ลูกปืนใหญ่ 483 รายการ ใน 4 จังหวัดชายแดน
ติดตามเราได้ที่