โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘อิ๊งค์’ควงฉัตรชัยแก้ต่างศาล

ไทยโพสต์

อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 7.18 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปากกล้าขาสั่น! "อิ๊งค์" เก็บตัวเงียบ ก่อนฉลองวันเกิดด้วยการไปศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนคดีคลิปเสียงฮุน เซน รุ่งขึ้นเป็นคดี ม.112 ของ "ทักษิณ" "ภูมิธรรม" ลั่นยังไม่รู้สึกว่าการเมืองร้อน ด้าน "ณัฐวุฒิ" อ้างคนขาดจริยธรรมต้องเป็น "ฮุน เซน" เพราะเป็นคนปล่อยคลิป ส่วน "อุ๊งอิ๊ง" รักษาสันติภาพ แต่ถูกปล่อยคลิปออกมาก่อน ถ้าศาลถอดถอนนายกฯ จะเป็นความสำเร็จของ "ฮุน เซน"

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลคดีคลิปเสียง วันเดียวกันนี้ น.ส.แพทองธารได้ปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในช่วงเช้า และมีรายงานว่าในช่วงบ่ายจะเดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรม แต่สุดท้ายได้ยกเลิกภารกิจ ไม่เข้ากระทรวงวัฒนธรรม

ขณะที่ในวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิด น.ส.แพทองธาร อายุครบ 39 ปี และเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 36 คนยื่นคำร้องให้วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5)

คดีนี้สืบเนื่องจากคลิปเสียงที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2568 ซึ่งบันทึกการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารและสมเด็จฮุน เซน โดยมีการพูดถึงการเคลื่อนย้ายกำลังทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และการกล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งผู้ร้องเห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2568 และสั่งให้ น.ส.แพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตั้งแต่วันนั้น

มีรายงานว่า น.ส.แพทองธารจะเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง ในเวลา 10.00 น. พร้อมทีมงานทนายความส่วนตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการสืบสวนและไต่สวน ตามที่ศาลนัดไต่สวนพยานบุคคล พร้อมกับนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นพยาน 2 ปาก ที่ศาลเปิดให้ไต่สวนและชี้แจงข้อเท็จจริงในห้องพิจารณาคดีต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ศาลยังคงสงสัยอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หากพยานไม่มาปรากฏตัว ศาลจะถือว่าไม่ติดใจ ทั้งนี้ ศาลกำหนดให้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีภายในวันที่ 27 ส.ค.2568 และนัดแถลงด้วยวาจาเวลา 09.30 น. พร้อมอ่านคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. ในวันที่ 29 ส.ค.2568 นี้

สำหรับบริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ มีการรักษาความปลอดภัยตามปกติ โดยตั้งแนวรั้วเหล็กมาตรฐาน ยังไม่มีการประกาศเขตอำนาจศาลแต่อย่างใด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำการตามปกติ ทั้งนี้ ศาลอนุญาตถ่ายทอดสดเฉพาะช่วงแรกของการไต่สวน โดยเมื่อเริ่มการไต่สวนอย่างเป็นทางการ การถ่ายทอดภาพและเสียงจะยุติทันที โดยอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าร่วมในห้องพิจารณาคดี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเลย ยังไม่ได้คุยกันเลยว่าใครจะไปกับนายกฯ บ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นวันประชุม สส.ของพรรค นายภูมิธรรมตอบเลี่ยงว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ตนทำงานอยู่ที่ทำเนียบฯ ทั้งวัน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีความกังวลอะไรหรือไม่ในเรื่องการเมืองที่กำลังจะเริ่มร้อน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ยังไม่รู้สึกว่าจะร้อน

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้กำลังใจกับนายกฯ ที่จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง และมีความเชื่อมั่นถึงเจตนาและวิธีการที่เกิดขึ้นในคลิปเสียงดังกล่าวที่ตั้งใจจะรักษาสันติภาพไม่ให้บานปลาย แต่ทุกอย่างล้มลงเพราะมีการแอบอัดเสียงและปล่อยออกมาเพื่อทำลายเสถียรภาพทางการเมืองของไทย ตนจึงมองว่าคนที่จะขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงน่าจะเป็นผู้ที่ปล่อยคลิปเสียง และหาก น.ส.แพทองธารพ้นจากตำแหน่งด้วยเรื่องนี้ ฝ่ายที่จงใจปล่อยคลิปเสียงจะมองว่าเป็นความสำเร็จทางการเมืองหรือไม่ และถ้าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับดุลพินิจของศาล

112 เครื่องมือการเมือง

เมื่อถามว่า วันที่ 22 ส.ค.จะเป็นการพิพากษาคดี 112 ของนายทักษิณ จะเดินทางไปให้กำลังใจหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า คงไม่ได้ไปในวันนั้น แต่ก็ขอให้กำลังใจนายทักษิณ และส่วนตัวมีความเห็นอยู่ 2 ประการ โดยประการแรก ตนคิดว่าการแจ้งข้อหา ม.112 ต่อนายทักษิณ ถ้าดูจากสถานการณ์ในเวลานั้นเห็นว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มุ่งใช้กฎหมายมาตรานี้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และประการที่ 2 ตนมองว่าไม่ใช่เฉพาะคดีนายทักษิณเท่านั้น แต่ใครก็ตามไม่ควรใช้กฎหมายมาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตนหรือฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าวิถีทางความขัดแย้งทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมเกิดขึ้นได้ แต่การนำกฎหมายที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในยามขัดแย้งทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้น

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า ในส่วนนั้นเป็นกระบวนการของศาลชั้นต้นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่อง 112 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนที่คนใกล้ชิดของนายทักษิณมั่นใจว่าคดีนี้จะถูกยกฟ้องนั้น ตนมองว่าความมั่นใจกับข้อเท็จจริงเป็นคนละเรื่องกัน โดยเฉพาะตนที่ผ่านคดีความมามากมายนั้น ต่อให้มั่นใจอย่างไร แต่ผลลัพธ์สุดท้ายคือความจริงที่ปรากฏออกมา จึงเป็นธรรมดาของคนที่เป็นจำเลยย่อมมีความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อแถลงด้วยวาจาในคดีคลิปเสียงว่า ต้องยอมรับก่อนว่าคลิปเป็นของจริง จึงไม่ใช่เป็นการถกเถียงว่าคือคลิปปลอมแน่ๆ ตนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่เข้าไปเป็นพยาน หากเป็นฝ่ายกองทัพจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่เมื่อพยานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง น้ำหนักก็อาจจะน้อย อย่างไรก็คงต้องติดตาม

ซัด 'แพทองธาร' ไม่มีสปิริต

ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ใช้นิติสงครามใดๆ แม้จุดยืนของตนและพรรคประชาชนจะเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองที่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าสิ่งที่ฮุน เซน ปล่อยคลิปเสียงนั้นไม่เหมาะสม แต่การพูดของนายกรัฐมนตรีในเรื่องนั้นก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีความรับผิดรับชอบ ถ้าเข้ามาทำงานการเมืองแล้วแสวงหาแต่ความรับชอบ ก็ไม่ควรมาเป็นนักการเมือง เพราะเราต้องการนักการเมืองที่กล้าหาญมากกว่านี้

"วันนี้ปัญหาหลายอย่างที่แก้กันไม่ตก เพราะท่านไม่รู้จักคำว่าความรับผิดรับชอบ จึงทำให้สุดท้ายบ้านเมืองยุ่งเหยิง และเกิดปัญหาเรื่องเสถียรภาพแบบนี้ จริงๆ ผมอยากเห็นท่านนายกฯ แสดงสปิริต แต่ก็คงเป็นการพูดที่ช้าไป เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าท่านไม่มีสปิริต" นายรังสิมันต์กล่าว

ส่วนนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด 25 จังหวัด เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้เสนอเข้าที่ประชุม ครม. ต้องตอบคำถามต่อสังคมให้ได้ว่าเป็นการย้ายเพื่อให้การทำงานต่อนโยบายรัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ หรือเป็นการล้างบาง เป็นเกมทางการเมือง ซึ่งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าจังหวัดที่ผู้ว่าฯ ถูกขยับโยกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ ก็เป็นจังหวัดที่เป็นพื้นที่ของพรรคการเมืองบางพรรค ตนเห็นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยระบุว่านโยบายปราบยาเสพติดขึงขังจริงจัง ใครไม่ทำตามต้องโยกย้าย แต่เขายังไม่ได้ทำงาน แล้วมีเหตุผลอะไรไปขยับหรือโยกย้ายคนที่ถือว่าเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวง

“ถ้าใช้อำนาจเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนก็จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้าทำเพื่อแก้แค้นหรือการแกล้งทางการเมือง ผมก็คิดว่าตำแหน่งอยู่กับเราไม่นาน เดี๋ยวการเมืองก็เปลี่ยน อำนาจอยู่กับเราไม่นาน ใช้อำนาจเพื่อดูแลประชาชนให้เกิดประโยชน์จะดีกว่า” นายกรวีร์กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการเร่งทำเพื่อเตรียมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นายกรวีร์กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้เร่งทำก่อนเลือกตั้ง แต่คิดว่าเร่งทำก่อนวันที่ 29 ส.ค.นี้มากกว่า

เขากระโดงวนในอ่าง

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการพิจารณาแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินเขากระโดง อำเภอเมืองฯ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นประเด็นพิพาทระหว่างกรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม ซึ่งได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรมที่ดิน, อธิบดีกรมธนารักษ์ และผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ทั้งหมดได้มอบหมายผู้แทนชี้แจงแทน

นายเศรษฐสีห์ เหล็งบุญ ผู้ว่าคดีการรถไฟ (ทนายความ) ชี้แจงว่า การออกราชกิจจานุเบกษา จะออกเฉพาะข้อความในตัวกฎหมาย แต่ตัวแผนที่จะยังไม่มีการแนบมา เป็นเหตุทำให้อธิบดีกรมที่ดินสงสัยว่าแผนที่ที่การรถไฟฯ ใช้อ้างต่อศาลมาโดยตลอด และศาลเชื่อเป็นเอกสารแนบท้ายกฎหมายใช่หรือไม่ แต่อธิบดีกรมที่ดินมองว่าไม่ได้อยู่ในส่วนหนึ่งของราชกิจจานุเบกษา จึงทำให้ไม่สนิทใจในการรับฟัง ซึ่งถือเป็นเรื่องของมุมมอง และต้องมองในบริบทว่าในอดีตเทคโนโลยียังไม่ดีเท่าปัจจุบัน

ขณะที่ผู้แทนการรถไฟฯ ชี้แจงเพิ่มว่า เราดำเนินการสำรวจเพื่อทำแผนที่แสดงเขตว่ามีระยะเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ ถึง กม.ไหน โดยให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกา ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ดังนั้นรูปแบบจึงต่างกันจากที่เราเข้าใจในการระบุว่าแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา อันนั้นเราคุยกันหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่เรามีพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดิน ซึ่งกำหนดรูปแบบการเวนคืน ที่ต้องมีพระราชกฤษฎีกา มีแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ซึ่งเกิดขึ้นในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ผู้ว่าคดีการรถไฟยังระบุว่า การประกาศจะสร้างทางรถไฟ ได้มีทีมที่ไปสำรวจเส้นทางเพื่อจัดทำแผนที่ที่จะทำทางว่ามีระยะกว้างยาวเท่าใด ซึ่งแผนที่ต้องทำเสร็จก่อนที่จะออกกฎหมายอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับการปลูกบ้าน หากไม่มีแบบบ้าน ก็จะไม่ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการแน่นอน ดังนั้นแผนที่จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย แม้จะไม่มีปรากฏตามในราชกิจจานุเบกษา จึงมีหลักฐานยืนยัน ไม่ใช่อยู่ดีๆ แผนที่ลอยมา และย้ำว่าแผนที่เกิดก่อนกฎหมายด้วยซ้ำ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

จากขั้วหัวใจ ‘ฮุน เซน’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดารา..พ่อค้า-แม่ขาย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

จับตา! ทนายอั๋น เผย หลวงพ่อคนดัง ส่งเงินให้นักการเมืองสีน้ำเงิน เพราะไม่อยากให้เงินอยู่ในระบบวัด

BRIGHTTV.CO.TH

ทรัมป์เรียกร้องกรรมการเฟดฉ้อโกงเงินกู้ซื้อบ้าน ลาออก

JS100

กลาโหมยิวอนุมัติแผนยึดครองกาซาซิตี้ สั่งระดมกองหนุนเพิ่มขึ้นอีก60,000นาย

Manager Online

เช็กพิกัด ไฟฟ้าดับวันนี้ พื้นที่ กทม.- นนทบุรี 21-22 ส.ค. 68

ฐานเศรษฐกิจ

สภาพอากาศวันนี้ -26 ส.ค.ภาคตะวันออกและใต้ฝนตกหนักมากบางแห่ง -ไทยฝนเพิ่ม

ฐานเศรษฐกิจ

อุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถบัส กลางถนนพระราม 2 มีผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย

สวพ.FM91

เกาะเชจู ออกคู่มือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ฝ่าฝืนอาจถูกปรับ

JS100

ประวัติ "เจ๊ไฝ" เชฟมิชลินสตาร์ ไข่เจียวปูในตำนาน เปิดราคาอาหารร้านเจ๊ไฝล่าสุด

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...