ผมเล่น4-4-2! 'ไดช์' มั่นคุมผีได้ดีกว่า 'บอสเจ๋ง'
ฌอน ไดช์ มั่นใจว่าเขาจะเป็นผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ดีกว่า รูเบน อโมริม โดยชี้ว่าระบบ 4-4-2 ที่เขาไว้วางใจคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
แม้จะขึ้นชื่อเรื่องสไตล์การเล่นแบบไดเรคต์และบอลคลาสสิก แต่อดีตกุนซือเอฟเวอร์ตัน และ เบิร์นลีย์ เชื่อว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จกับสโมสรอย่าง ยูไนเต็ด ได้หากได้รับโอกาส
"ผมอาจจะโดนถล่มยับเยิน แต่ผมพนันได้เลยว่าผมน่าจะชนะได้มากกว่านี้ถ้าทีมเล่นระบบ 4-4-2" ไดช์บอกกับ แซม อัลลาร์ไดซ์ อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษในพอดแคสต์ No Tippy Tappy Football
"คนพูดถึงปรัชญาของเขา [อโมริม] อยู่เรื่อย แต่มันก็ไม่ได้ผล การเล่นแค่ 5-10 เกมไม่เป็นไรหรอก แต่พอเล่นไป 20 เกม มันก็ยังไม่ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด"
หลังจากคุมทีม โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาเก้าเดือน อโมริม คว้าชัยชนะได้เพียง 16 นัด จาก 43 นัดที่คุมทีม ทำให้มีอัตราการชนะเพียง 37 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลอดอาชีพของ ไดช์ ที่ 34 เปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ เขายังต้องดิ้นรนเพื่อนำสไตล์การเล่นที่ลื่นไหลและเปี่ยมพลังแบบฉบับของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาใช้ ซึ่งทีมของ ยูไนเต็ด พบว่ายากที่จะปรับตัวเข้ากับระบบกองหลังสามตัวของ อโมริม
เพื่อแก้ปัญหานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทุ่มเงินไปกว่า 200 ล้านปอนด์เพื่อซื้อสามประสานแนวรุกใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้ และในเดือนมกราคมก็ทุ่มเงิน 26 ล้านปอนด์เพื่อซื้อ แพทริค ดอร์กู วิงแบ็กที่เข้ากับสไตล์การเล่นของอโมริม
ไดช์ เชื่อว่านี่เป็นหลักฐานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีทีมที่พร้อมจะเล่นในแบบของ อโมริม แม้ว่าเขาจะชื่นชมสโมสรและหัวหน้าโค้ชที่ยึดมั่นในหลักการของพวกเขาก็ตาม
"ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะพวกเขาดึงตัวผู้เล่นตัวหลักเข้ามาถึงสามคนในช่วงซัมเมอร์นี้ ดังนั้นมันคงไม่เวิร์คกับนักเตะที่มีอยู่ แต่บางทีนักเตะใหม่อาจจะทำผลงานได้ดีกว่า" เขากล่าว
"ในแง่หนึ่ง ผมชอบที่พวกเขายังคงยึดมั่นกับเรื่องนี้ และนี่คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลที่จะทำให้ทุกอย่างออกมาถูกต้อง แต่ในอีกแง่หนึ่ง คุณคงไม่รอดจากสถานการณ์แบบนี้ได้ อโมริม ได้รับเวลามากกว่าคนอื่นๆ"
"หลายคนลืมไปแล้วว่าในฤดูกาลแรกของ เป๊ป เขาเปลี่ยนแปลงทีมเยอะมาก เล่นหลายระบบ จบฤดูกาลด้วยคะแนนห่างจากจ่าฝูงถึง 13 คะแนน ไม่มีใครแม้แต่จะกระพริบตา ถ้าเขาอยู่กับ เรอัล มาดริด เขาคงโดนไล่ออกไปแล้ว แต่เขาได้เรียนรู้และคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลถัดมา"