กัมพูชาแถลงปฏิเสธวางทุ่นระเบิดใหม่ อ้างควรเร่งกำจัดมากกว่ากล่าวโทษกัน
วันที่ 28 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 06.20 น. หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อและปฏิบัติการทุ่นระเบิดของกัมพูชา (CMAA) ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาของประเทศไทย เกี่ยวกับการวางทุ่นระเบิดใหม่ จากเหตุล่าสุดที่มีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเพิ่มเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา
CMAA ระบุว่า เกี่ยวกับเหตุการณ์ทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 68 ใกล้ปราสาทตาควาย และข้อกล่าวหาที่ตามมาของกองทัพบกไทย ทหารไทยนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทำให้ขาขวาส่วนล่างขาดนั้น”
“กองทัพบกไทยกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและสนธิสัญญาออตตาวา โดยกล่าวหาว่าวางทุ่นระเบิดพลาสติกใหม่ ซึ่งเครื่องตรวจจับทุ่นระเบิดมาตรฐานไม่สามารถตรวจจับได้”
“CMAA ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทหารที่ได้รับบาดเจ็บและขอให้เขาหายดีโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม เราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ากองกำลังกัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่อย่างหนักแน่น”
“ข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังขาดการสอบสวนที่ชัดเจนหรือหลักฐานที่น่าเชื่อถือ กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างเต็มที่ต่อการหยุดยิงและพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาตั้งแต่ปี 2543 โดยยังคงนโยบายไม่ยอมให้มีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยเด็ดขาด กัมพูชาไม่เคยใช้ ผลิต หรือติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่เลยนับตั้งแต่สนธิสัญญามีผลบังคับใช้”
“พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ตามแนวชายแดนใกล้กับปราสาทตาควาย ซึ่งถูกปนเปื้อนอย่างหนักจากทุ่นระเบิดจากความขัดแย้งในอดีตมานานหลายทศวรรษ ในช่วงสงครามกลางเมืองและยุคเขมรแดง มีทุ่นระเบิดหลายล้านลูกถูกวางพาดผ่านชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา รวมถึงในพื้นที่นี้ด้วย”
“เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า พื้นที่นี้มีการปนเปื้อนของทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหลายประเภท รวมถึงทุ่นระเบิดที่มีปลอกพลาสติก อุปกรณ์เหล่านี้มีโลหะอยู่น้อยมาก ทำให้ตรวจจับได้ยากด้วยเครื่องตรวจจับทุ่นระเบิดมาตรฐาน”
“ทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีของกัมพูชาได้พบเจอและกำจัดทุ่นระเบิดประเภทนี้ข้ามจังหวัดชายแดนมาเป็นเวลาหลายปี และมีการบันทึกข้อมูลเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดีในบันทึกการปฏิบัติการทุ่นระเบิดของเรา”
“การที่ทุ่นระเบิดที่มีปลอกพลาสติกหลุดรอดจากการตรวจจับตามปกตินั้น สอดคล้องกับการปนเปื้อนที่สืบทอดกันมายาวนานในพื้นที่นี้ ไม่ใช่หลักฐานของการวางทุ่นระเบิดใหม่”
“พื้นที่ใกล้ปราสาทตาควาย ซึ่งฝ่ายไทยอ้างถึงโดยเฉพาะ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงที่ยังคงมีร่องรอยของสงครามกระจัดกระจายอยู่ เหตุการณ์ที่น่าเศร้านี้น่าจะเป็นผลมาจากทุ่นระเบิดที่มีอยู่ก่อนแล้วมากกว่ากิจกรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการได้รับการกำจัดระเบิดเพื่อผลประโยชน์ด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง มากกว่าการกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง”
“กัมพูชาประสบความสำเร็จอย่างมากในปฏิบัติการทุ่นระเบิดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 อย่างไรก็ตาม ชายแดนกัมพูชา-ไทยยังคงปนเปื้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลที่มีความสำคัญรองจากหมู่บ้านและพื้นที่เกษตรกรรม มีการติดตั้งป้ายเตือนในพื้นที่ชายแดน และแผนที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง”
“จากเหตุการณ์นี้ CMAA เรียกร้องให้เกิดความสงบและความร่วมมือ ไม่ใช่การยกระดับสถานการณ์ เราขอเรียกร้องให้ฝ่ายไทยร่วมแบ่งปันหลักฐานใด ๆ ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบโดยอิสระ”
“ทั้งสองประเทศเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา และมีหน้าที่ร่วมกันในการป้องกันการใช้ทุ่นระเบิดใหม่และการกำจัดทุ่นระเบิดเก่า เรายินดีกับกลไกจัดการทุ่นระเบิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค และยังคงเปิดรับความคิดริเริ่มในการกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่มีการประสานงานกัน”
“โดยสรุป กัมพูชาขอย้ำว่ากัมพูชาไม่ได้ใช้ทุ่นระเบิดใหม่ และจะไม่ทำเช่นนั้นอีก และยังคงยึดมั่นในพันธสัญญาต่ออนุสัญญาออตตาวาและการหยุดยิง เราจะยังคงมุ่งเน้นที่การกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมและความร่วมมือเพื่อขจัดภัยคุกคามที่หลงเหลือจากสงครามในอดีต”
“เราขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหานี้ด้วยความรับผิดชอบ รักษาสันติภาพตามแนวชายแดน และให้ความปลอดภัยแก่ทั้งพลเมืองกัมพูชาและชาวไทย เราขอเรียกร้องให้ประเทศไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยงดเว้นการเคลื่อนย้ายกำลังพลใด ๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ทรัมป์” ส่งจดหมายขอบคุณ “ฮุน มาเนต” เสนอชื่อเข้าชิงโนเบลสันติภาพ
นักวิชาการกัมพูชาซัดสวีเดน เห็นแก่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หลังขายกริพเพนให้ไทย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กัมพูชาแถลงปฏิเสธวางทุ่นระเบิดใหม่ อ้างควรเร่งกำจัดมากกว่ากล่าวโทษกัน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com