เปิดตัว DJI Mic 3 ไมค์ไร้สายจิ๋ว แต่ได้ฟีเจอร์โปร
DJI ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ฃDJI Mic 3 ยกเครื่องใหม่โปรแต่ภายในแต่ดีไซน์เล็กพกง่าย โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่ม Content Creator, Vlogger, และโปรดักชันขนาดเล็กที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพในแพ็คเกจที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่นสูงสุด สำหรับคนที่สนใจอยู่ มาดูว่ามีอะไรเด่นบ้าง เริ่มกันเลย
อะไรเด่นใน DJI Mic 3
1. คุณภาพเสียงระดับโปร: 32-bit Float Recording และ Adaptive Gain นี่คือฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดในการอัปเกรดครั้งนี้ DJI Mic 3 มาพร้อม Internal Recording แบบ 32-bit Float ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในเครื่องบันทึกเสียงระดับโปร ข้อดีของมันคือมี Dynamic Range ที่กว้างมหาศาล ทำให้หมดปัญหาเสียงแตกพร่า (Clipping) แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียงดังมาก ๆ หรือเบามาก ๆ ก็ตาม ช่วยให้ไฟล์เสียงที่ได้ยืดหยุ่นและปลอดภัยสำหรับการนำไปใช้ใน Post-production
นอกจากนี้ ยังเป็นรุ่นแรกที่มี Adaptive Gain Control ระบบปรับระดับเสียงอัจฉริยะ 2 โหมด ที่ช่วยป้องกันเสียงพีคหรือปรับเสียงให้สมดุลอัตโนมัติ เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ควบคุมเสียงได้ยาก
2. ขยายสเกลงานโปรดักชัน: รองรับ 4 ตัวส่งสัญญาณ (4TX) และ Timecode DJI Mic 3 ได้ทลายข้อจำกัดเดิมๆ ด้วยความสามารถในการรองรับตัวส่งสัญญาณ (TX) ได้ สูงสุดถึง 4 ตัวพร้อมกัน ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การถ่ายสัมภาษณ์กลุ่ม, Podcast หลายคน หรือรายการที่มีผู้ดำเนินรายการหลายคน
ที่สำคัญยังมาพร้อมฟังก์ชัน Timecode ในตัว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ระดับโปรที่ช่วยให้การซิงค์เสียงจากไมค์หลายๆ ตัวเข้ากับวิดีโอจากกล้องหลายๆ ตัวในขั้นตอน Post-production ทำได้อย่างง่ายดายและแม่นยำระดับเฟรมต่อเฟรม
3. การเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่นและฉลาดขึ้น
- ระยะส่งสัญญาณไกล 400 เมตร ด้วยเทคโนโลยีการสลับคลื่นความถี่ระหว่าง 2.4GHz และ 5GHz อัตโนมัติ ทำให้สัญญาณเสถียรและทนทานต่อสัญญาณรบกวนได้ดีขึ้น
- เชื่อมต่อ Bluetooth ตรงกับมือถือ: สามารถเชื่อมต่อตัวส่งสัญญาณ (TX) เข้ากับสมาร์ทโฟนได้โดยตรงผ่าน Bluetooth โดยไม่ต้องใช้ตัวรับสัญญาณ (RX) เพิ่มความคล่องตัวให้สาย Vlogger หรือ Live Streamer
- Ecosystem เดียวกับ Osmo: สามารถเชื่อมต่อกับกล้อง DJI Osmo Action หรือ Osmo Pocket ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านตัวรับสัญญาณ ทำให้ชุดถ่ายทำของคุณกะทัดรัดยิ่งขึ้น
4. ดีไซน์กะทัดรัดและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ตัวส่งสัญญาณมีน้ำหนักเบาเพียง 16 กรัม สามารถติดได้ทั้งแบบแม่เหล็กและคลิปหนีบ ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงสำหรับตัวส่ง และ 10 ชั่วโมงสำหรับตัวรับ เมื่อรวมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 28 ชั่วโมง
ราคาและการวางจำหน่าย
DJI Mic 3 พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ที่ DJI Experience Store และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต โดยมีชุดให้เลือกดังนี้
- DJI Mic 3 (2 TX + 1 RX + เคสชาร์จ): ราคา 11,050 บาท
- DJI Mic 3 (1 TX + 1 RX): ราคา 6,250 บาท
นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตัวส่ง, ตัวรับ และเคสชาร์จแยกได้ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ที่กันลมหลากสี และอะแดปเตอร์สำหรับกล้องและโทรศัพท์มือถือ
จากที่ได้เห็นทั้งหมดขอสรุปว่า DJI Mic 3 คือการยกระดับไมโครโฟนไร้สายขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการนำฟีเจอร์ระดับโปรอย่าง 32-bit Float, Timecode, และการรองรับ 4 ไมค์ มาใส่ไว้ในอุปกรณ์ที่ยังคงใช้งานง่ายและสะดวกสบายตามสไตล์ DJI ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับ Creator ที่ต้องการคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเสียงในระดับสูงสุด