เปิดรายละเอียด "แบงก์ชาติ" สั่งห้ามโอนเงินมากกว่า 50,000 บาทต่อวัน ใครได้รับผลกระทบบ้าง ?
"แบงก์ชาติ" สั่งห้ามโอนเงินมากกว่า 50,000 บาทต่อวัน ใครได้รับผลกระทบบ้าง ?
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตรการใหม่เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน กำหนดวงเงินการโอนเงินหรือชำระเงินผ่าน Mobile banking/Internet banking โอนต่อวันได้ไสูงสุดเพียงแค่ 50,000 บาท สำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดใช้โมบายแบงก์กิ้ง เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 นี้เป็นต้นไป และจะขยายให้ครอบคลุมลูกค้าปัจจุบันทั้งหมดภายในสิ้นปี 2568
ทั้งนี้ธนาคารจะประเมินจากข้อมูลต่าง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า (Customer Profiling) เช่น พฤติกรรมการทำธุรกรรม ประวัติการใช้บัญชีและผลิตภัณฑ์หรือบริการ ดังนั้น วงเงินที่ลูกค้าได้รับจากแต่ละสถาบันการเงินอาจแตกต่างกันได้ เนื่องจากแต่ละสถาบันการเงินมีข้อมูลของลูกค้าแต่ละรายไม่เท่ากัน ซึ่งช่วยบริหารความเสี่ยง และลดความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นได้
วงเงินแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
S วงเงินต่อวัน ไม่เกิน 50,000 บาท
M วงเงินต่อวัน ไม่เกิน 200,000 บาท
L วงเงินต่อวัน เกิน 200,000 บาท
ทำไมต้องกำหนดวงเงิน ?
- ป้องกันมิจฉาชีพ
เพื่อจำกัดไม่ให้บุคคลที่มีประวัติหรือพฤติกรรมน่าสงสัยสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ในจำนวนมากเพราะที่ผ่านมา มิจฉาชีพสามารถโอนเงินได้ครั้งละจำนวนมาก ทำให้ถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ยากต่อการกักเงินได้ทัน
- จำกัดความเสียหาย
เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกค้าหากตกเป็นเหยื่อโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุที่มักเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ
ใครได้รับผลกระทบบ้าง?
สถาบันการเงินจะดำเนินการตามมาตรการนี้กับ
– กลุ่มลูกค้าใหม่ : เปิดใช้บริการ mobile banking หรือ internet banking ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568
– กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน : ภายในสิ้นปี 2568
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวมีผลกับบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา และธุรกรรมที่ทำผ่าน"ช่องทางดิจิทัล" เท่านั้น
สถาบันการเงินจะปรับลดวงเงินอัตโนมัติในกรณีที่ลูกค้าเป็นกลุ่มเปราะบาง ได้แก่
1) เยาวชน อายุไม่เกิน 15 ปี
2) ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ สถาบันการเงินจะแจ้งลูกค้าล่วงหน้า โดยสถาบันการเงินสามารถปฏิเสธการขอเพิ่มวงเงินของลูกค้าได้ เว้นแต่จะมีข้อมูลทางการเงินและหลักฐานเพียงพอตามที่แต่ละธนาคารกำหนด ธนาคารสามารถปรับเพิ่มวงเงินให้ตามความเหมาะสมได้
ไม่กระทบกับใคร ?
ลูกค้าที่ทำธุรกรรมที่สาขาหรือตู้ ATM ยังเป็นไปตามปกติเหมือนเดิม
ลูกค้าที่ธุรกรรมการโอนเงินหรือชำระเงินไปยังบัญชีตนเองภายในสถาบันการเงินเดียวกัน
เช่น การจ่ายบัตรเครดิตในสถาบันการเงินเดียวกัน การจ่ายสินเชื่อให้ตนเองภายในสถาบันการเงินเดียวกัน การโอนไปยังบัญชีการลงทุนในสถาบันการเงินเดียวกัน
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงิน และคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มการถูกมิจฉาชีพ หรือแก็งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงินต่างๆ ยังอยู่ระดับสูง ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายจากการที่ประชาชนถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ในการหลอกให้โอนเงินผ่านบัญชีม้า ดังนั้นมาตรการที่ ธปท.จะทำในระยะข้างหน้าคือ การจำกัดความเสียหายจากการโอนเงิน ก่อนที่เหยื่อหรือผู้โอนจะรู้ตัว
โดย ธปท. จะออกมาตรการ การจำกัดวงเงินการโอนเงิน หรือการชำระเงิน
1. จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน
2. จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ โดยธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอน และชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า โดยวงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
โดยการจำกัดการโอนเงิน และการชำระเงินนั้น จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่นอายุเกิน 65 ปี และอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่จะจำกัดการโอนเงิน เพื่อช่วยปกป้องไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือเมื่อตกเป็นเหยื่อ และมีการโอนเงินออกไปแล้ว ไม่ให้เสียหายมากเกินไป
"แบงก์ชาติ" ย้ำดูตามความเหมาะสม ธนาคารต้องแจ้งล่วงหน้า ลูกค้าโต้แย้งได้
นางสาวดารณี ระบุว่า มาตรการนี้เป็นการจำกัดความเสี่ยงจากการโอนเงิน ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ว่าถูกหลอก เพราะบางครั้งเหยื่อรู้ตัวช้า การโอนเงินออกจากบัญชีม้าก็เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นมาตรการที่เราจะทำคือ มาตรการที่ออกมาขวางไม่ให้เงินมันออกไปได้ง่าย ตั้งแต่ที่เหยื่อยังไม่รู้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ผ่านการกำหนดวงเงินการโอนเงินหรือการชำระเงินต่อวัน เพราะเราไม่ต้องการให้ระบบการเงินไทยของเราเป็นทางผ่านของเงินไปสู่มิจฉาชีพ
ทั้งนี้ การจำกัดหรือกำหนดการโอนเงิน หรือชำระเงินต่อวันลดลง สำหรับลูกค้าบางคน จะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และการทำธุรกรรมของลูกค้าแต่ละคนด้วย และการจะไปกำหนดวงเงินไม่ให้ออกจากบัญชีเกิน 5 หมื่นบาท เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่แบงก์ต้องดูตามความเหมาะสม
เช่น หากเป็นลูกค้าที่ไม่เคยเปิดบัญชีมาก่อน กลุ่มนี้แบงก์อาจกำหนดการโอนเงินขั้นต่ำไว้ก่อนที่ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวันสำหรับทุกกลุ่ม แต่หากเขาใช้ไปสักพัก และแบงก์มองว่าเป็นลูกค้าปกติ อาจให้กลุ่มนี้ออกจากกลุ่มเสี่ยงที่ต้องสงสัยได้ แล้วอาจกำหนดวงเงินขึ้นไปเพิ่มเติมได้ หรือหากเป็นลูกค้ากลุ่ม M หรือ L การโอนเงินออก ก็อาจทำได้มากกว่าขั้นต่ำที่ ธปท.กำหนดไว้ได้ เช่นอาจมากกว่า 2 แสนบาทเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลดวงเงินการโอนเงินนั้น ธนาคารจะเป็นผู้แจ้งให้กับลูกค้ารับทราบล่วงหน้า ซึ่งการกำหนดวงเงินการโอน และชำระเงินจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแบงก์ที่จะพิจารณา โดยดูจากพฤติกรรม และการทำธุรกรรมการเงินในอดีต
ซึ่งหากเป็นคนที่เคยโอนเงินปกติในระดับดังกล่าว แบงก์ก็อาจขยายวงเงินการโอนเงินเพิ่มขึ้นได้ โดยอาจไม่ต้องโทรศัพท์หาคอลเซนเตอร์ หรือขอเอกสารเพิ่มเติม แต่บางกลุ่มที่ต้องการขยายวงเงินจากวงเงินขั้นต่ำที่กำหนด อาจต้องมีการติดต่อคอลเซนเตอร์เพื่อขยายวงเงินชั่วคราว หรือแบงก์อาจขอเอกสารเพิ่มเติม ถึงความจำเป็นในการโอนเงินได้
มาตรการนี้แบงก์ชาติย้ำว่าเราก็ตระหนัก และไม่ให้กระทบลูกค้าดีมากเกินไป ดังนั้นจึงกำหนดมาตรการดังกล่าวสำหรับลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 2568 แต่สำหรับลูกค้าใหม่ มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อคุ้มครองลูกค้าได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทั้งหมดนี้หากธนาคารใดมีความพร้อมสามารถดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ทันที
คนไทยถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินเงินเสียหายเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อเดือน
สำหรับแนวโน้มการถูกทุจริตการเงิน พบว่า ความเสียหายจากการถูกหลอกโอนเงินยังอยู่ระดับสูง โดยยังไม่ได้ลดลงหากเทียบกับอดีต โดยเฉพาะการถูกหลอกให้โอนเงินให้มิจฉาชีพเอง ที่พบว่าความเสียหาย ในไตรมาสที่ 2 ยังอยู่ระดับสูงที่ 6,000 ล้านบาท เฉลี่ย 2,000 ล้านต่อเดือน ลดลงจากไตรมาส 2/2567 มีมูลค่าความเสียหาย 8,590 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ณ เดือนกรกฎาคม 2568 สามารถระงับบัญชี 3 ล้านบัญชี คิดเป็นรายชื่อม้า 1.77 แสนรายชื่อ หากดูข้อมูลความเสียหายจากการหลอกลวงในเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนความเสียหาย 24,500 เคส ความเสียหายรวม 2,800 ล้านบาท เฉลี่ย 114,000 บาทต่อเคส โดยยอดโอนเงินสูงสุดอยู่ที่ 4.9 ล้านบาท และหากดูธุรกรรมที่เหยื่อโอนเข้าบัญชีม้ามูลค่าสูงกว่า 5 หมื่นบาท โอนเงินภายใน 3 นาที ประมาณ 50% ของมูลค่าความเสียหาย โดยที่เหยื่อจะแจ้งข้อมูลเข้าระบบภายใน 19-25 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปภ. เตือน 45 จังหวัด เสี่ยงน้ำหลาก 24–28 ส.ค.
- เตือนระวัง “เปิดบัญชีหลอกรับเงินบริจาคช่วยทหารชายแดน” เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
- "พิชัย" เผยไทยเตรียมหารือภาษี "Local Content" กับทางการสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า
- "ดอลลาร์" หมดความขลัง ? ทองคำจ่อแซงหน้า ท้าชิงเบอร์หนึ่งทุนสำรองโลก ใต้เงาทรัมป์ 2.0
- "แบงก์ชาติ" ออกมาตรการใหม่ ห้ามโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน เน้นกลุ่มเปราะบาง หวังสกัดมิจฉาชีพหลอก