"ณัฐพงษ์" แจงปมถูก“กัลฟ์” ฟ้องอาญา-แพ่ง หลังแถลงอภิปรายค่าไฟ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวกรณีพรรคประชาชนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากกลุ่มทุนพลังงานขนาดใหญ่ จากการเรียกร้องกรณีค่าไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรมในประเทศไทย ที่เกิดจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลหลายสมัยที่ผ่านมา
นายณัฐพงษ์ระบุว่าที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพลังไฟฟ้าที่เป็นธรรม โปร่งใส และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง พรรคประชาชนเล็งเห็นว่าค่าไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่มองเห็น แต่เป็นต้นทุนในการดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจของประชาชนคนไทยและผู้ประกอบการทุกคนในประเทศนี้
ที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้สะท้อนปัญหาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนแฝงที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้าสำรองที่ล้นเกิน แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่แผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
อีกทั้งยังมีการเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถรับซื้อพลังงานไฟฟ้าที่ล้นเกินเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีก และยังมีการเปิดช่องให้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมที่เกินความจำเป็นเหมือนที่ผ่านมา
พรรคประชาชนที่ผ่านมาได้ใช้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการแถลงข่าว การตั้งกระทู้ถาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันให้รัฐบาลมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่นการผลักดันที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา
เพื่อให้เกิดการยกเลิกโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 5,200 เมกะวัตต์ และ 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งช่วงต้นดูเหมือนมีแนวโน้มที่ดีหลังจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้ชะลอการรับซื้อนรอบ 3,600 เมกะวัตต์ แต่ก็เป็นที่น่าผิดหวังที่รัฐบาลอาศัยจังหวะที่ข่าวเงียบลง เดินหน้าการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าในส่วนนี้ต่อ โดยเปลี่ยนวิธีเป็นการเจรจาลดราคารับซื้อจากเอกชนแทน ทั้งที่โครงการดังกล่าวมีปัญหา 4 ประการด้วยกัน คือ
1) เป็นกระบวนการที่ไม่เปิดประมูลในการรับซื้อ ใช้ราคารับซื้อเดิมทั้งที่ราคาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลงทุกปี แต่รัฐบาลกำลังจะรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนที่แพงเกินจริง
2) ไม่มีการเปิดเผยเกณฑ์การให้คะแนนก่อนการเริ่มกระบวนการคัดเลือก ซึ่งที่ผ่านมาศาลก็เคยมีแนววินิจฉัยแล้วว่ากระบวนการเช่นนี้ไม่ถูกต้องไม่โปร่งใส
3) ไม่มีเหตุผลรับรองใดว่าประเทศไทยมีความจำเป็นต้องสำรองไฟฟ้าเพิ่มเติม เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยมีไฟฟ้าสำรองที่ล้นเกินอยู่แล้ว
4) กระบวนการนี้เป็นการกีดกันการแข่งขัน เนื่องจากล็อกสิทธิให้เฉพาะกลุ่มทุนเดิมที่เคยเข้าร่วมหรือยื่นไว้ในปี 2565 เท่านั้น ที่มีสิทธิ์เข้าสู่กระบวนการคัดเลือก
ตนและเพื่อนสมาชิกพรรคประชาชนได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งล่าสุดที่มีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบกระบวนการในการรับซื้อพลังงานไฟฟ้า หรือนโยบายพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนมาถึงสมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือจากการทำหน้าที่ของพวกเราในฐานะผู้แทนราษฎร ตนและเพื่อน สส. อีกสองคนกำลังถูกบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ฟ้องร้องดำเนินคดี
สำหรับตนถูก บริษัท กัลฟ์ เจพีเอ็นเอส จำกัด ฟ้องในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 100 ล้านบาท จากกรณีที่ตนได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้
ส่วนวรภพและศุภโชติถูก บริษัท กัลฟ์ เดเวล็อปเมนท์ ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาในลักษณะเดียวกัน พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่งคนละ 100 ล้านบาทเช่นเดียวกัน จากกรณีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสามคนสามคดี มูลค่าความเสียหายทางแพ่ง 300 ล้านบาท
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า พรรคประชาชนยืนยันว่าการแถลงข่าวและการอภิปรายของพวกเราทั้งหมดที่ผ่านมา ในการเรียกร้องเพื่อทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริตในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การฟ้องร้องดำเนินคดีพวกเราในครั้งนี้ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนพลังงานหรือกลุ่มใด จะไม่ทำให้พวกเราหวั่นไหวหรือหยุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรต่อไป
โดยในส่วนคดีของตน ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งตนจะเดินทางเข้าสู่กระบวนการด้วยตนเอง และขอเชิญชวนประชาชนและสื่อมวลชนทุกคนได้ร่วมติดตามการทำหน้าที่ของพวกเราในการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรม รวมถึงติดตามความคืบหน้าคดีที่พวกเราทั้งสามคนถูกดำเนินคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อทวงคืนค่าไฟที่โปร่งใสและเป็นธรรมสำหรับประชาชนทุกคน