ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 3.10 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทสมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ
กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล
ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 สัปดาห์ จัดการหาเสื้อไรเดอร์ หมวกกันน็อก และนำรถจักรยานยนต์มาพ่นสีใหม่ วางแผนเส้นทางในการหลบหนี โดยไปสำรวจเส้นทางและจุดที่นำรถไปทิ้งไว้ก่อน แล้วไปชวนนายมด รุ่นน้องที่เป็นญาติกัน ใช้เรือล่องสำรวจเส้นทางเพื่อนัดตำแหน่งจุดนัดพบ โดยเลือกเส้นทางเรือที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและบ้านคน เพื่อไม่ให้ตำรวจติดตามได้
หลังก่อเหตุ ก็ให้นายมด ขับเรือมาจอดรถรับบริเวณใต้สะพานข้ามคลอง เพื่อหลบหนีกลับบ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจากคลองเพียงร้อยกว่าเมตร เมื่อถึงบ้าน ตนก็แบ่งทองออกเป็น 2 ชุด ซุกซ่อนตามที่จุดที่ตำรวจพบของกลาง ส่วนที่เลือกร้านทองแห่งนี้ เพราะตนเองเคยเข้ามาซื้อสินค้าภายในห้างและมองว่าร้านทองไม่มีลูกกรงในการป้องกันและง่ายต่อการก่อเหตุ จึงเลือกร้านทองแห่งนี้ ส่วนทองที่หายไป คาดว่าตกหล่นในช่วงที่ตนเองขับรถพุ่งลงคลอง และลากรถจากกลางคลองมาซ่อนใกล้ตอม่อสะพาน เพราะตนนำทองใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย แต่ไม่ทันรูดซิปปิดกระเป๋า เพราะตอนนั้นสังเกตว่ามีทองเกี่ยวตัวปืนที่ตนใช้ก่อเหตุแล้วโยนทิ้งตกไปด้วย
หลังตำรวจสอบปากคำผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพในร้านทอง และเส้นทางหลบหนีรวมถึงจุดที่ทิ้งรถ เพื่อประกอบสำนวนดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ต้องหารายนี้ เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ ร่วมกันรับของโจร มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ” -สำนักข่าวไทย