“ถั่วแดง” โปรตีนจากพืชสูงไม่แพ้เนื้อสัตว์ ข้อควรระวังต้องรู้!
ถั่วแดง (Red Kidney bean) เป็นถั่วพุ่มที่มีเมล็ดคล้ายไต เมล็ดมีหลายสี เช่น สีแดง สีแดงเข้มหรือแดงม่วง นิยมใช้ประกอบอาทารทั้งคาวและหวาน ในไทยพบปลูก 2 ชนิด คือ ถั่วแดงหลวงและถั่วนิ้วนางแดง จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังนิยมนำมาทำเป็นของหวาน อาทิ ถั่วแดงกวน ขนมปังไส้ถั่วแดง น้ำถั่วแดง เค้กชาเขียวถั่วแดง วุ้นถั่วแดงกวน โดรายากิ ซุปถั่วแดง ถั่วแดงอัดเม็ด ฯลฯ หรือใช้ทำเป็น แป้งถั่วแดง
หากไม่มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม นับว่าเป็นโปรตีนพืช ที่มีคุณค่าทางอาหารเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ มีธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงโลหิต วิตามินบีหลายชนิด และมีแคลเซียมสูง นอกจากนี้ยังมีสังกะสีโปแตสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแดง ต่อ 100 กรัม พลังงาน 337 กิโลแคลอรี
ประโยชน์ของถั่วแดง
- เป็นแหล่งเสริมโปรตีนที่ได้จากพืชเพราะในถั่วแดงมีโปรตีนสูง ให้คุณค่าอาหารใกล้เคียงเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ รับประทานมังสวิรัติ อาทิ ถั่วแดงต้มโรยสลัด
- มีคาร์โบไฮเดรตจึงเป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย
- ถั่วแดงเป็นแหล่งอาหารที่ดีของธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงโลหิตช่วยปรับสภาพเลือดในร่างกาย บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- มีแคลเซียมสูง ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
- มีวิตามินหลายชนิด เช่น ไทอะมีน ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน วิตามินบี1 วิตามินบี2 จึงมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะถั่วแดงมีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยดูดซับน้ำและพองตัวได้ดี และมีคุณสมบัติที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอล ทำให้ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารช้าลง ทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน จึงช่วยลดการกินจุบจิบได้ดี ซึ่งแตกต่างจากเนื้อสัตว์ที่ไม่มีเส้นใยอาหาร เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงไม่อิ่มท้องเท่ากับการรับประทานถั่วแดง ส่งผลทำให้น้ำหนักตัวโดยรวมลดลง
คำแนะนำในการรับประทานถั่วแดง
- ถั่วแดงมีสารพิวรีน (Purine) ระดับปานกลาง ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด เพราะสารดังกล่าวอาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการของข้ออักเสบกำเริบขึ้นได้
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง ควรระวังในการรับประทานถั่วแดง เพราะถั่วแดงเป็นอาหารที่โปรตีนและฟอสฟอรัสสูง ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง
- ถั่วแดงทานแค่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร และ medthai