ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 4-8 ส.ค. 68)
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
• เงินบาทพลิกแข็งค่าอีกครั้ง ตลาดกลับมามองความเป็นไปได้ที่เฟดอาจลดดอกเบี้ยเดือนก.ย. นี้ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันต่อเนื่องจากตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดมาก ซึ่งยิ่งกระตุ้นให้ตลาดเพิ่มการคาดการณ์ถึงโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. นี้ เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแข็งค่าในช่วงต่อมา และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 32.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากข้อมูล ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณอ่อนแอ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของภาษีของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ และประเด็นระหว่างปธน. ทรัมป์ และเฟด นอกจากนี้ สถานการณ์ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติที่อยู่ในฝั่งซื้อสุทธิในสัปดาห์นี้ ช่วยบรรเทาแรงกดดันจากความผันผวนของราคาทองคำในตลาดโลก และเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมของเงินบาท อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกเล็กน้อยตามการปรับโพสิชั่นก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุด ประกอบกับตลาดยังคงรอติดตามการประชุมกนง. ในวันที่ 13 ส.ค. นี้อย่างใกล้ชิด
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 11-15 ส.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.10-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม กนง. (13 ส.ค.) ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ราคาทองคำในตลาดโลก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ตัวเลขยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของจีน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 ของอังกฤษยูโรโซนและญี่ปุ่น
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือนระหว่างสัปดาห์ ก่อนจะลดช่วงบวกลงช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ท่ามกลางแรงซื้อหลัก ๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยมีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในรอบการประชุมเดือนก.ย. ที่จะถึงนี้ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มแบงก์ กลุ่มสื่อสารที่ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาค่อนข้างดี ตลอดจนหุ้นบริษัทสายการบินรายใหญ่แห่งหนึ่งจากการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้งหลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ดี หลังจากดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือนที่ 1,280.78 จุดก็ย่อตัวลงในช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายเพื่อปรับโพสิชั่นก่อนวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ
• สัปดาห์ที่ 11-15 ส.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,230 และ 1,215 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,280 และ 1,300 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (13 ส.ค.) ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบจ.ไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค. ของจีน