โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ส่งออกจีนเติบโตดีกว่าคาดในเดือน ก.ค.68 ที่ 7.2%YoY โดย 7 เดือนแรกจีนส่งออกมาไทยเติบโตสูงสุดในอาเซียน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

o แม้จะมีการตกลงเจรจาระงับ Reciprocal tariffs ระหว่างสหรัฐฯ และจีนในช่วงเดือนพ.ค.68 แต่การส่งออกจีนไปสหรัฐฯ ในเดือนก.ค. 68 ยังหดตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ -21.7%YoY จาก -16.1%YoY ทั้งนี้ การหดตัวลงของการส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ ยังคงถูกชดเชยด้วยการการส่งออกไปอาเซียนที่ยังเติบโตแข็งแกร่งที่ 16.6%YoY ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเร่งส่งออกก่อนผลของอัตราภาษีใหม่ของทางสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนส.ค.68 ส่งผลให้เดือนก.ค.68 ส่งออกจีนขยายตัวดีกว่าคาดการณ์อยู่ที่ 7.2%YoY ขณะที่การนำเข้าขยายตัวต่อเนื่องติดกันเป็นเดือนที่ 2 ที่ 4.4%YoY (รูปที่ 1) ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าลดลงในเดือนก.ค. 68 (รูปที่ 2) o ตั้งแต่เดือนก.พ.68 หลังนายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้จีนจะยังเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ แต่ระดับการเกินดุลของจีนเกินดุลกับสหรัฐฯ ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งปี 67 (รูปที่ 3) สะท้อนว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งของนายทรัมป์ส่งผลให้การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีทิศทางชะลอลง
o นอกจากนี้ ใน 7 เดือนแรกของปี การเติบโตของการส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงถึง -12.6%YoY ขณะที่การส่งออกไปอาเซียนเติบโตเร่งขึ้นอยู่ที่ 13.5%YoY โดยการส่งออกจากจีนมาไทยเติบโตสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 22.6%YoY รองลงมาคือเวียดนามอยู่ที่ 20.7% (รูปที่ 4) สะท้อนว่าปัญหาสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้าไทยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะสินค้าในหมวดเครื่องแต่งกาย ของใช้ส่วนตัว และของตกแต่งบ้าน
o ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าในช่วงที่เหลือของปี 2568 การส่งออกจีนมีแนวโน้มเติบโตชะลอลง โดยเผชิญความเสี่ยงอีกหลายประการ ดังนี้

1. อัตราภาษีใหม่ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากประเทศในอาเซียนจะกลับมาอยู่ในระดับสูงที่ 10-40% นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมในการเก็บภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ (Transshipment) ที่ 40% ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าผ่านประเทศที่สามของจีนมีต้นทุนที่สูงขึ้น
2. แม้คาดว่าสหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงการยืดระยะเวลาการระงับ Reciprocal tariffs ระหว่างกันก่อนเส้นตายวันที่ 12 ส.ค.68 แต่อัตราภาษีปัจจุบันที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจีนยังอยู่ในระดับสูงที่ 51.1% (อ้างอิงข้อมูลจาก PETERSON INSTITUTE FOR INTERNATIONAL ECONOMICS) ส่งผลให้การส่งออกจากจีนไปสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มหดตัว
3. การเรียกเก็บภาษีในรายสินค้าอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บเพิ่มเติมคาดจะยังมีทยอยออกมาต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางสหรัฐฯ ระบุว่าจะเรียกเก็บภาษีจากชิปและ เซมิคอนดักเตอร์สูงถึง 100% (หากไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ)
4. ความไม่แน่นอนทางการค้ายังมีอยู่ เช่น ล่าสุดสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีจากทางอินเดียเพิ่มอยู่ที่ 50% เพื่อตอบโต้ต่อการที่อินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

การประชุม กนง. 13 ส.ค. มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ 1.75% โดยคาดปรับลด 1-2 ครั้ง ใน 2 การประชุมที่เหลือของปีนี้

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สินเชื่อเดือน มิ.ย. 2568 ติดลบต่อเป็นเดือนที่ 13

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่นๆ

OR ไตรมาส 2 รายได้ลด 1.5 หมื่นล้าน แต่ธุรกิจไลฟ์สไตล์โต 7.1% Cafe Amazon ขายได้ 107 ล้านแก้ว

TODAY

จาก Gadget สู่บิวตี้เทค 'Dyson Omega' เซรั่มสุดล้ำที่เกิดจากฟาร์ม

กรุงเทพธุรกิจ

หุ้นไทยพักเที่ยงวันนี้(8 ส.ค.) ลบ 5.75 จุด ขาย CPALL-DELTA ซื้อ THAI

ทันหุ้น

ส.อ.ท. ผนึก ธนาคารไทย ดัน Transition Finance เฟสแรก 5 พันล้าน หนุนอุตฯ คาร์บอนต่ำ

กรุงเทพธุรกิจ

SPREME โชว์ Q2/68 รายได้พุ่ง 61.21% กำไรเพิ่มขึ้น 5.61% ครึ่งปีหลังจ่อคว้า Mega Project มั่นใจปีนี้เติบโต Double Digit รักษามาร์จิ้นระดับสูง

สยามรัฐ

บอร์ดบีโอไอ เคาะมาตรการช่วยนักลงทุน ลดผลกระทบปัญหาชายแดน หนุนย้ายฐานผลิตมาไทย

efinanceThai

สรุป SET100 เช้านี้ BCPG บวกสูงสุด 4.64%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

พาณิชย์เร่งครึ่งปีหลัง ดันโควต้าข้าว 2.8 แสนตัน บุกแดนมังกร–ซาอุ–ญี่ปุ่น–บังกลาเทศ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...