โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"ยุทธพร" มองผลคดี "นายกฯ" 50:50 ออกได้ทั้ง 2 ทาง เหตุ กม. เขียนไว้กว้าง

Thai PBS

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS
“ยุทธพร” มอง ผลคดี “นายกฯ” 50:50 ออกได้ทั้ง 2 ทาง เหตุกฎหมายเขียนไว้กว้าง อยู่ที่ “ศาล รธน.” จะวินิฉัย ชี้ หากได้ไปต่อยังมีโจทย์ใหญ่รอให้แก้ ส่วน “ณัฐวุฒิ” ขอทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ (28 ส.ค.2568) รศ.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนา ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ว่า 50:50 สามารถออกไปได้ทุกทาง เพราะเรื่องกฎหมายมีการเขียนไว้กว้าง

รศ.ยุทธพร กล่าวว่า อย่างคำว่าซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่หรือคำว่าจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ นั้นก็สามารถวินิจฉัยออกมาได้ทั้งหมดเพราะคงไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่าซื่อสัตย์สุจริตหมายถึงอะไร ขณะเดียวกันมาตรฐานจริยธรรมก็เป็นประเด็นที่ถูกจับขึ้นมาเหมือนกันอยู่ที่ศาลว่าจะรับพิจารณาทั้ง 2 ประเด็นหรือไม่ และนายกฯ ก็ต้องผ่านพ้นทั้ง 2 ประเด็นจึงจะสามารถไปต่อได้ หากติดประเด็นใดประเด็นหนึ่งจะไปต่อไม่ได้

ดังนั้น ในเรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมายที่เขียนไว้กว้าง ความหมายแตกต่างกัน ขณะเดียวกันก็เป็นข้อเท็จจริงซึ่งต้องมีการพิสูจน์ในคำวินิจฉัยของศาลว่าจะฟังข้อเท็จจริงอย่างไร ทั้งคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีหรือคำร้องของผู้ร้อง รวมถึงการแถลงปิดคดีของทั้งสองฝ่าย และเรื่องการไต่สวนพยาน 2 ปากสำคัญ คือตัวนายกฯ และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ต้องอยู่ที่ว่าศาลจะวินิจฉัยไปในทางใด

หากมองในแง่ข้อกฎหมาย การวินิจฉัยให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี หรือถึงขั้นตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ดีนั้น สิ่งเหล่านี้ต้องมีความเด็ดขาด เพราะเป็นผลที่เกิดขึ้นต่อบุคคล สำหรับข้อ 27 นั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ หรือจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งต้องดูเรื่องเจตนา พฤติการณ์ และความร้ายแรงของความเสียหาย ซึ่งคำชี้แจงของ นายกฯ ก็มีการอธิบายทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ เมื่อคำชี้แจงประกอบกับการไต่สวนพยาน ศาลจะรับฟังหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจศาล จึงให้โอกาสเป็น 50:50 ออกได้ทั้งสองฝั่ง

รศ.ยุทธพร อิสรชัย

รศ.ยุทธพร กล่าวว่า ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นคุณกับนายกฯหรือไม่ แง่ที่เป็นคุณนายกฯ อาจจะได้ไปต่อ คือสามารถบริหารงานต่อ แต่ในแง่ความชอบธรรมทางการเมืองหรือการแก้โจทก์ต่างๆก็ยังมีอยู่อีกหลายอย่าง รวมถึงสัญญาณทางคดีก่อนหน้านี้ ทั้งคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คดีนายกฯเองและคดีชั้น 14

นอกจากสัญญาทางคดีแล้ว แม้นายกฯจะได้ไปต่อก็ยังมีสัญญาณทางการเมือง ที่จะต้องแก้อีก คือจะทำอย่างไร ให้เสถียรภาพทางการเมืองกลับมา การที่เสียงปริ่มน้ำหรือสภาฯล่ม และชิงปิดประชุมสภาบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ต้องไม่ทำให้ภาพเกิดขึ้น เพราะจะส่งกระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และรัฐบาล ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ต่อไป

ขณะที่มาตรา 5 และมาตรา 144 ที่อาจจะสามารถ Set Zero ส.ส.ได้กว่าครึ่งสภา ก็ต้องเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาต่อว่าจะส่งผลต่อการเมืองอย่างไร แม้กระทั่งการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ภายหลังหากผลเป็นคุณต่อ นายกฯ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องรอดู เพราะอาจจะปะทุกลับขึ้นมาอีกตอนไหน ส่วนสัญญาณทางเศรษฐกิจ ก็ต้องเร่งฟื้นฟูให้กับประชาชนในระยะสั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่รอ

หากผลวินิจฉัยเป็นไปในเชิงลบ นายกฯ ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้ว จะไปต่อได้หรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลเช่นเดียวกัน ถึงจะมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ได้ นายกฯ คนใหม่ก็ต้องเผชิญโจทย์การเมืองและเศรษฐกิจ

"ณัฐวุฒิ" ขอทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในกระบวนการยุติธรรม และขอให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นยังคงดำรงสถานะและความเข้มแข็งของประเทศไทย ในการเผชิญกับภัยสงครามจากต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้ยังคาดเดาสถานการณ์ไม่ได้อยู่

นายณัฐวุฒิ ยังตอบคำถามที่ว่าแม้นายกฯ รอดหรือไม่รอด แต่ภาพลักษณ์รัฐบาลได้รับผลกระทบไปแล้ว ว่า ต้องรอคำวินิจฉัยก่อนจะประเมินผลได้ และวันพรุ่งนี้หากมีคำวินิจฉัยแล้ว ตนพร้อมให้ความเห็นอีกครั้ง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

ส่วนคำถามว่ารัฐบาลจะเรียกความน่าเชื่อถือกลับมาได้อย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทุกรัฐบาลย่อมผ่านสถานการณ์ทั้งช่วงที่กระแสนิยมสูงและช่วงที่ที่มีปัญหา สิ่งสำคัญคือการพิสูจน์ด้วยผลงาน การแก้ปัญหา และการผลักดันนโยบายที่เป็นรูปธรรมให้ประชาชนเห็นชัด หากมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตัววิกฤต ศรัทธา หรือความนิยมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีปัญหาก็ย่อมมีหนทางที่จะฟื้นคืนมาได้

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีคลิปเสียงว่า เกิดขึ้นจากความจงใจของผู้มีอำนาจจากประเทศกัมพูชา ที่จะสร้างความปั่นป่วนทำลายเสถียรภาพทางการเมือง อาจมีเป้าหมายจนถึงขั้นล้มรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น หากรัฐบาลชุดนี้มีอันเป็นไปทางการเมืองจะหมายถึงประเทศอีกฝ่ายเขาประกาศเป็นความสำเร็จของเขาหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นสถานการณ์ต่อไปในช่วงเวลาที่ประเทศไทยขาดรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม เกมของอีกฝั่งหนึ่ง เขาจะเปิดฉากรุกเข้ามาอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือก้าวล่วงศาล เพราะทั้งหมดต้องรอคำวินิจฉัยของศาล และเราต้องเคารพร่วมกัน

อ่านข่าว :เปิดแผนรองรับ “ลิง 541 ตัว” วัดพระบาทน้ำพุ ในวันเผชิญวิกฤตศรัทธา

นร.ชายวัย 13 ใช้ชีวิตในไทยตั้งแต่ทารก ถูกจับ-อาจถูกส่งกลับกัมพูชา

ราคา “ทองคำ” เช้านี้ไม่เปลี่ยนแปลง “รูปพรรณ” ในประเทศขายออก 52,750 บาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

"ภูมิธรรม" เตือน อินฟลูฯ นำรถดูดส้วมไปชายแดน ห่วงเป็นเหตุพาขึ้นศาลโลก

34 นาทีที่แล้ว

ศร.ฟ้อง "The Critics - สถาบันทิศทางไทย" ปมบิดเบือนข้อเท็จจริงศาลไต่สวน

50 นาทีที่แล้ว

ครม.ไฟเขียวจัด "Tomorrowland" หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตม.สุรินทร์ ผลักดันแม่ลูกกัมพูชากลับประเทศ แนะทำเอกสารให้ถูกต้อง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว การเมือง อื่น ๆ

“แพทองธาร” แถลงที่ทำเนียบฯ หลังศาล รธน.วินิจฉัย ก่อนเข้าเพื่อไทยพบ “สส.-แฟนคลับ”

สยามรัฐ

บิ๊กเล็ก ชี้เหตุสู้รบไทย-เขมร ทำรู้เขา-รู้เรา แนะเร่งพัฒนาระบบต่อต้านโดรน อุดช่องโหว่

MATICHON ONLINE

ภูมิธรรม เตือนอินฟลูฯดัง ขนรถดูดส้วมชายแดน อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ

สยามนิวส์

“ปลอดประสพ” ออกตัวเอี๊ยด แจง แนวคิดจ่ายชดเชยให้คนเขมรที่รุกล้ำเขตแดนไทย ย้ำเกิดจากความรักชาติ หวังดี เพื่อยุติข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา

THE ROOM 44 CHANNEL

‘ปิยรัฐ’ แถลงผลประชุมกมธ.ความมั่นคงฯ ติดตาม เยียวยาผลกระทบชายแดนไทย–กัมพูชา

เดลินิวส์

สพฉ. ผนึกเครือข่าย อบรมทักษะการเฝ้าระวังและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ความคิดเห็นมากที่สุด

ดูเพิ่ม