ดานังทุ่มสุดตัวปั้น ‘Silicon Bay’ สร้างแล็บ 2 พันล้าน-ดึงบริษัทชิประดับโลก พร้อมเสนอยกเว้นภาษี 5 ปีดึงคนเก่ง ปูทางฮับ ‘การเงิน-การค้า-เทคโนโลยี’ ของเวียดนาม
เมืองดานัง ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มีหาดทรายขาวและสะพานมือสีทองอันโด่งดัง กำลังอยู่ระหว่างการ ‘พลิกโฉมครั้งใหญ่’ เพื่อก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านการเงิน เทคโนโลยี และการค้าแห่งใหม่ของเวียดนาม
เลือง เหวียน มินห์ เจียต ประธานคณะกรรมการประชาชนเมืองดานัง ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Nikkei Asia ถึงแผนการจัดตั้งศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ (IFC) เพื่อดึงดูดเงินทุนมาสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดย IFC ของดานังจะมุ่งเน้นไปที่การเงินสีเขียว (green finance) ฟินเทค และสินทรัพย์ดิจิทัล
สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ จะมีสำนักงานใหญ่เป็นอาคารสูง 22 ชั้นในโครงการ Danang Software Park 2 พร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนเพิ่มเติมบนคาบสมุทรเซินจ่า และยังมีการสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างเกาะเทียมในอ่าวดานังอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำไมเวียดนามเลือก ‘ดานัง’ เมืองท่าเล็กๆ เป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกของประเทศและศูนย์การเงินโลก
- ทำไมอุตสาหกรรม ‘เซมิคอนดักเตอร์’ โตเร็วสุดในเวียดนาม และยังคงเป็นเสือตัวใหม่แห่งเอเชีย
- เวียดนามผงาด! เบียดแซงไทย ล้มบัลลังก์ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก ตีตื้นขึ้นมาเป็นรองแค่อินเดีย
นอกจากการเป็นฮับด้านการเงินแล้ว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดานังยังได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเขตการค้าเสรี (FTZ) แห่งแรกของเวียดนาม บนพื้นที่เกือบ 1,900 เฮกตาร์ ซึ่งจะช่วยให้เมืองสามารถส่งเสริมเศรษฐกิจที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยผสมผสานทั้งการผลิต อีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ และนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน
อีกหนึ่งเสาหลักสำคัญของแผนนี้คือการผลักดันให้ดานังกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี โดยมีวิสัยทัศน์ที่เรียกว่า ‘Silicon Bay’ ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ Software Park 2 พื้นที่ขนาด 93,000 ตารางเมตร ที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับบริษัทในอุตสาหกรรม AI และเซมิคอนดักเตอร์โดยเฉพาะ
เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง เมืองดานังกำลังลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการประดิษฐ์ (fabrication lab) มูลค่าเกือบ 70 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.27 พันล้านบาท) และศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับอุตสาหกรรมดิจิทัล
ปัจจุบัน Software Park 2 ประกอบด้วยอาคาร 8 ชั้นสองหลัง โดยหนึ่งในนั้นคาดว่าจะมีบริษัทเข้าใช้พื้นที่เต็มภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่อีกหลังกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีอาคารสูง 20 ชั้นและที่ดินสำหรับโครงการอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบอีกด้วย
เจียตกล่าวว่า “เมืองของเรากำลังหาทางออกเพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี ข้อมูล เซมิคอนดักเตอร์ และ AI ของภูมิภาค” ปัจจุบันดานังสามารถดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Synopsys, Marvell, Renesas และ FPT เข้ามาได้แล้ว ขณะที่ Intel, Nvidia และ Qualcomm ก็กำลังศึกษาโอกาสในการลงทุน
FPT ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเวียดนาม ได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์ใน Software Park 2 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และยังมีแคมปัสขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในดานัง ซึ่งอาคาร FPT Complex สามารถรองรับพนักงานได้ถึง 10,000 คน
เพื่อเร่งให้วิสัยทัศน์นี้ดานังได้ออกมาตรการจูงใจที่ดึงดูดโดยเป็นเมืองแรกในเวียดนามที่เสนอยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลา 5 ปีสำหรับบุคลากรในภาคเซมิคอนดักเตอร์และ AI รวมถึงการมอบเงินสนับสนุนพิเศษสำหรับนักวิทยาศาสตร์, เงินรางวัลสำหรับสิ่งประดิษฐ์ทางเทคโนโลยี และการสนับสนุนที่พัก
การลงทุนไม่ได้จำกัดอยู่แค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังรวมถึงการสร้างบุคลากร โดยในปีที่แล้วมหาวิทยาลัย 19 แห่งในเมืองได้เปิดรับนักศึกษาในสาขาเซมิคอนดักเตอร์ถึง 600 คน และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 1,000 คนในปี 2025 ซึ่งส่งผลให้จำนวนบริษัทในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าจากปี 2023
แผนการพัฒนานี้ยังได้รับการสนับสนุนจากการปฏิรูปเขตปกครองครั้งใหญ่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเมืองดานังได้ควบรวมเข้ากับจังหวัดกว๋างนาม ทำให้มีพื้นที่ขยายใหญ่ขึ้นถึง 9 เท่าเป็นมากกว่า 11,000 ตารางกิโลเมตร เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
เจียตได้กล่าวถึงปรัชญาที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า “ดานังไม่รอคอยโอกาสเราสร้างโอกาสขึ้นมาเอง” เขากล่าวปิดท้ายด้วยความเชื่อมั่นว่า “ถ้าเรากล้าคิด กล้าทำ กล้าที่จะก้าวข้าม ดานังจะสามารถก้าวออกไปสู่เวทีโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยความกล้าหาญและภาพลักษณ์ใหม่”
หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.46 บาท ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568
ภาพ:alexkoral / Shutterstock
อ้างอิง: