พบ คนไทยทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพิ่มหลังประกาศหยุดยิงชายแดน
ผบช.สอท. เผยคนไทยเปลี่ยนใจทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพิ่มหลังมีประกาศหยุดยิงไทย-กัมพูชา ยืนยันเจ้าหน้าที่เร่งปรับอย่างต่อเนื่อง พบการ ข่าวหัวหน้าชาวจีนสั่งพนักงานทำโอทีเพิ่ม
วันนี้ (16 ส.ค.68) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุถึงสถานการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์ บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา ว่าในช่วงที่มีเหตุปะทะกันใน 1-2 วันแรก มีคนไทยที่ทำงานอยู่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย เนื่องจากกลัวที่จะถูกคนกัมพูชาทำร้ายจากสถานการณ์ความขัดแย้ง และจากเหตุปะทะ โดนในวันแรกพบคนไทยเดินทางกลับประเทศ จำนวน 1,000 คน วันที่ 2 ได้มีการประสาน เจ้าหน้าที่ด่านทางชายแดนว่าจะขอกลับมาอีก2,000คน แต่ทันทีที่มีการเจรจาหยุดยิงคนไทยก็เปลี่ยนใจขอทำงานเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ต่อ
เบื้องต้นช่วงแรกที่มีเหตุปะทะมีการแจ้งความ ผ่าน ไทยโพลิสออนไลน์ลดลงเหลือ 800-900 เคส จาก 1,100 เคสไอดี แต่หลังจากเจรจาหยุดยิงก็กลับมาเพิ่มขึ้น ประมาณวันละ 1,000 เคสไอดี แต่ถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนก็ยังปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมามันได้ผล เพราะตอนนี้ทราบว่าหัวหน้าที่เป็นคนจีนสั่งให้ทำโอทีเพิ่ม ซึ่งคิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร
ส่วนประเด็นที่ว่ากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ย้ายฐานปฏิบัติการลึกเข้าไปในปอยเปตทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะมีการยกระดับในการปราบปรามหรือดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ทางการไทยมีความพยายามที่จะยกระดับปฏิบัติการโดยดึงประเทศที่ตกเป็นเหยื่อ หรือประเทศที่เห็นว่ากันกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สากลอย่างร้ายแรง
ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ การค้ามนุษย์ด้วย การบังคับใช้แรงงานหลอกลวง การฉ้อโกงประชาชนทั่วโลก แล้วนำเงินไปฟอก ไปทำธุรกิจอื่น ๆ มองว่า จะต้องดึงความร่วมมือจากทั้งโลกเข้ามาในปฏิบัติการนี้ ซึ่งทางผบ. ตร . และจเรตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดตั้งวอร์รูมขึ้นมาเฉพาะ ซึ่งจะมีหน่วยต่างประเทศทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะประเทศที่ตกเป็นเหยื่อจะมาร่วมปฏิบัติการในวอร์รูมนี้ด้วย
เราคงต้องใช้กลไล โลกรอบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อนำมาสู่ปฏิบัติการปราบปรามแก๊งCall Center และฐานที่ตั้ง เพราะไม่ว่าจะอยู่ลึก หรืออยู่ตามแนวชายแดนเราก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปกวาดล้างจับกุมได้เนื่องจากเป็นการรุกรับอธิปไตยประเทศเขา ต้องให้เขาเลือกเอา ถ้าเขาเลือกที่จะรับรายได้จากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จากพวกมิจฉาชีพ ก็จะต้องไม่รับรายได้จากคนที่สุจริตของคนทั้งโลก จึงเรียกร้องทุกประเทศที่ตกเป็นเหยื่อเราต้องร่วมมือกัน"
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังระบุอีกว่าที่ผ่านมามีนักวิเคราะห์จากประเทศสิงคโปร์ออกมาบอกว่าการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการปราบปลาซิวปลาสร้อยไม่ถึงตัวหัวหน้าขบวนการ ซึ่งเราเคยส่งข้อมูลเปิดเป็นจุดที่ตั้งใหญ่ของแก็งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆออกไป แต่จุดเหล่านั้นก็ไม่เคยถูกกวาดล้าง ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงแค่การจับกุมบ้างเล็กน้อย จึงอยากขอความร่วมมือ อย่างจริงจังและจริงใจจากทางประเทศกัมพูชาในการกวาดล้าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews