นักเขียน ‘แซลลี รูนีย์’ ประกาศมอบรายได้สนับสนุนกลุ่ม Palestine Action แม้รัฐบาลอังกฤษสั่งแบนกลุ่มนี้ และจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย
“ฉันสนับสนุน Palestine Action หากสิ่งนี้จะทำให้ฉันกลายเป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้ายภายใต้กฎหมายของสหราชอาณาจักร ก็ขอให้มันเป็นเช่นนั้น”
นักเขียนชาวไอริช ‘แซลลี รูนีย์’ เจ้าของผลงานเรื่อง Normal People ประกาศว่าจะมอบรายได้จากงานเขียนของเธอให้กับกลุ่ม Palestine Action ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรจัดเป็นองค์กรก่อการร้ายเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นั่นทำให้เธอมีความเสี่ยงว่าจะถูกจับ
เธอเลือกเปิดเผยเรื่องนี้ผ่าน The Irish Times โดยให้เหตุผลว่าหากเปิดเผยผ่านสื่ออังกฤษจะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศแบนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งการสนับสนุนกลุ่มที่ถูกแบนจะถือเป็นความผิดอาญาในสหราชอาณาจักร และมีโทษจำคุกถึง 14 ปี
“อย่างน้อยตอนนี้หนังสือของฉันก็ยังคงตีพิมพ์ในสหราชอาณาจักร และวางขายอย่างแพร่หลายในร้านหนังสือหรือแม้แต่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในช่วงไม่กี่ปีมานี้สถานีโทรทัศน์ก็เอานิยายของฉันมาดัดแปลงเป็นผลงานชั้นเยี่ยมถึงสองเรื่อง และจ่ายค่าตอบแทนให้อยู่เป็นประจำ
ฉันจึงขอชี้แจงให้ชัดเจนเลยว่า ฉันตั้งใจจะใช้รายได้จากการทำงานนี้ รวมถึงจากทุกๆ แพลตฟอร์มสนับสนุน Palestine Action ต่อไป และดำเนินการต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในทุกวิถีทางเท่าที่ฉันจะสามารถทำได้ หากรัฐบาลอังกฤษจะมองว่านี่เป็นการก่อการร้ายก็ควรตรวจสอบองค์กรที่คอยส่งเสริมผลงานของฉัน เช่น WH Smith และ BBC ด้วย” —รูนีย์กล่าว
ซาดาคัต คาดรี ทนายความและนักเขียนกล่าวว่า การรับเงินโดยมีเจตนานำไปใช้สนับสนุนการก่อการร้ายถือเป็นความผิดตามมาตรา 15 ของพระราชบัญญัติปี 2000 ซึ่งหมายความว่ารูนีย์อาจถูกจับกุมในข้อหาผู้ก่อการร้าย
“และความไร้สาระยังไม่จบแค่นั้น การตัดสินใจของ อีเวตต์ คูเปอร์ รมต.มหาดไทย ที่จัดกลุ่ม Palestine Action ไว้กับกลุ่มดังกล่าวนั้นหมายความว่า BBC เองก็อาจจะต้องรับผิดทางอาญาด้วยเช่นกัน หากยังคงจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้รูนีย์ต่อไป” คาดรีกล่าวต่อ
นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่า รัฐบาลเผด็จการมักข่มขู่นักเขียน และผู้แพร่ภาพกระจายเสียง เขาจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกมากที่พรรคการเมืองภายใต้การนำของ เคียร์ สตาร์เมอร์ กลับเลือกที่จะดำเนินรอยตามแนวทางเดียวกันนี้
ทำไมอังกฤษถึงแบน Palestine Action?
Palestine Action จัดตั้งขึ้นมาในปี 2020 และประท้วงโดยตรงต่อผู้ที่ผลิตอาวุธเป็นหลัก ซึ่ง The Irish Times ระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลสหราชอาณาจักรก็ยังคงให้การสนับสนุนด้านวัตถุและการทูตต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา
ก่อนหน้านี้ นักเคลื่อนไหวได้บุกเข้าไปในฐานทัพอากาศของกองทัพอากาศอังกฤษ (RAF) และใช้สเปรย์พ่นสีบนเครื่องบินสองลำ ทำให้รัฐบาลตอบโต้ด้วยการกำหนดให้ Palestine Action เป็นองค์กรก่อการร้าย นั่นทำให้การแสดงออกใดๆ ก็ตามที่สนับสนุน Palestine Action ไม่ว่าจะป้ายหรือเสื้อยืดก็จะถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมายของสหราชอาณาจักร
ที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมภายใต้พระราชบัญญัติการก่อการร้ายมากกว่า 700 คน นับตั้งแต่ที่กลุ่มดังกล่าวถูกแบน ซึ่งหลายคนถูกควบคุมตัวระหว่างการประท้วงอย่างสันติ กลางจัตุรัสรัฐสภา ในกรุงลอนดอน ขณะที่บางคนโดนจับเพียงเพราะถือป้ายที่มีข้อความว่า ‘ฉันต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฉันสนับสนุน Palestine Action’ โดยในจำนวนผู้ที่โดนจับกว่าครึ่งหนึ่งเป็นคนที่อายุมากกว่า 60 ปี
อารีบา ฮามิด จากกรีนพีซสหราชอาณาจักร (Greenpeace UK) บอกว่า ประชาชนหลายร้อยคนอาจต้องติดคุกจากการนั่งถือป้ายประท้วงแบบเงียบๆ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้อาจถือเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนแบบไม่สมเหตุสมผล และเหตุใดผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจำนวนมากจึงแสดงความกังวลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลในการขยายนิยามของการก่อการร้ายในลักษณะนี้
อ้างอิงจาก