บอร์ด ทอท.ไฟเขียว ‘คิงเพาเวอร์’ ยืดเวลาชำระเงินดิวตี้ฟรี 8 เดือน
บอร์ด ทอท.ไฟเขียว คิง เพาเวอร์ขยายเวลาชำระเงิน 'ดิวตี้ฟรี' 3 สัญญา ออกไปอีกงวดละ 8 เดือน พร้อมวางเงินหลักประกันเพิ่มเติมเป็นจำนวน 1,450 ล้านบาท ยืนยันบริษัทฯ มีสภาพคล่องเพียงพอรองรับการลงทุนในอนาคต
27 มิ.ย. 2568 - รายงานจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.แจ้งว่าได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด ทอท.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 22 มกราคม2568 อนุมัติโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของทอท.ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง เพื่อให้ ทอท.ยังสามารถรักษาผู้ประกอบการเชิงพาณชย์ และสายการบินที่มีศักยภาพแต่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่ทั่วโลกให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ นั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้มีหนังสือถึง ทอท.ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เพื่อขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยการประชุมบอร์ด ทอท.ครั้งที่ 9/2568 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมมีมติรับทราบมติคณะกรรมการพิจารณารายได้ของ ทอท.ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ซึ่งอนุมัติให้KPD เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของทอท.ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง ทั้ง 3 สัญญา
ได้แก่ 1.สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอยเมือง 3. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยให้ KPD แบ่งชำระและเลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำออกไปอีกงวดละ8 เดือน
สำหรับงวดดังต่อไปนี้ เดือนมิถุนายน – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน 2568 ให้เลื่อนออกไป 6 เดือน) 2.2 เดือนกันยายน – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง
เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดย KPD ต้องชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ8.8440 ต่อปี (MLR+2) ของค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ค้างชำระในแต่ละงวดให้แก่ ทอท.ทุกเดือน
ทั้งนี้ KPD ต้องนำเงินหลักประกันมาวางเพิ่มเติมให้ ทอท.เป็นจำนวน 1,450 ล้านบาท (รวมมูลค่าทั้ง 3 สัญญา) เพื่อให้ครอบคลุมยอดค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ KPD ได้รับอนุมัติให้เลื่อนชำระพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
ทั้งนี้ ทอท.ขอยืนยันว่า ทอท.ยังคงมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง แข็งแรง และยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับโครงการลงทุนในอนาคตและการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของ ทอท.