Heads of State (ผู้นำสายบู๊กู้วิกฤต)
- ชื่อเรื่อง: Heads of State (ผู้นำสายบู๊กู้วิกฤต)
- นักแสดง: Idris Elba, John Cena, Priyanka Chopra Jonas, Carla Gugino, Jack Quaid, Stephen Root, Sarah Niles, Richard Coyle และ Paddy Considine
- ผู้กำกับ: Ilya Naishuller
- ผู้เขียนบท: Josh Appelbaum & André Nemec และ Harrison Query
- ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร: Marcus Viscidi, Josh Appelbaum, André Nemec, John Cena, Idris Elba
- ผู้อำนวยการสร้าง: Peter Safran, p.g.a. และ John Rickard, p.g.a.
- ประเภท: แอ็คชั่น, คอเมดี้
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 53 นาที
- กำหนดสตรีม: วันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2025
เรื่องย่อ:*ภาพยนตร์แอ็กชั่นคอเมดี้ Heads of State* นำเสนอเรื่องราวของนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร Sam Clarke (รับบทโดย Idris Elba) และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Will Derringer (รับบทโดย John Cena) ที่มีความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผยและดุเดือด จนส่งผลกระทบต่อ “ความสัมพันธ์พิเศษ” ระหว่างสองประเทศ
แต่เมื่อทั้งสองกลายเป็นเป้าหมายของศัตรูจากต่างชาติ ผู้ทรงอิทธิพลและไร้ความปรานี—ที่เหนือกว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของทั้งสองประเทศอย่างสิ้นเชิง—ทั้งคู่จึงจำใจต้องพึ่งพาคนเพียงสองคนที่พวกเขาไว้ใจได้ ซึ่งก็คือกันและกัน
ท้ายที่สุดพวกเขาจำต้องร่วมมือกับ Noel Bisset (รับบทโดย Priyanka Chopra Jonas) สายลับ MI6 ผู้เฉลียวฉลาด และต้องหลบหนีไปด้วยกัน พร้อมหาหนทางร่วมมือกันให้นานพอ เพื่อยับยั้งแผนสมรู้ร่วมคิดระดับโลกที่คุกคามโลกเสรีทั้งหมด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดย Paddy Considine, Stephen Root, Carla Gugino, Jack Quaid และ Sarah Niles กำกับโดย Ilya Naishulle**
10 เกร็ดน่าสนใจเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ Heads of State (ผู้นำสายบู๊กู้วิกฤต) ของ Prime Video
จากคู่กัดใน The Suicide Squad สู่คู่หู(จำเป็น)ใน Heads of State
โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากความเข้ากันได้ดีเกินคาดของ Idris Elba และ John Cena ในภาพยนตร์ The Suicide Squadผู้อำนวยการสร้างอย่าง Peter Safran และ John Rickard จึงรีบหาบทหนังที่เหมาะให้ทั้งสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง
นี่คือภาพยนตร์แอ็คชั่นคอเมดี้ ในสไตล์ Buddy Movie ยุค 80s–90s
ผู้กำกับ Ilya Naishuller ตั้งใจให้หนังเรื่องนี้เป็นการคารวะหนัง “คู่หูต่างขั้ว” ที่ผู้ชมชื่นชอบในช่วงยุค 80s–90s แต่เล่าเรื่องผ่านมุมมองแบบทันสมัย
ความต่างของสองผู้นำ คือหัวใจของความฮา
Will Derringer คืออดีตนักแสดงหนังแอ็คชั่นชื่อดังผู้กลายมาเป็นประธานาธิบดี ผู้มองโลกในแง่ดีแบบ “สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ในชุดสูท” ในขณะที่ Sam Clarke คือนายกรัฐมนตรีสายจริงจัง ผู้เคร่งขรึมและมองโลกตามความเป็นจริงอย่างระมัดระวัง
Priyanka Chopra Jonas ผู้รับบทสายลับ MI6 แสดงฉากแอ็คชั่นเองเกือบทั้งหมด
Priyanka Chopra Jonas รับบท “Noel Bisset” สายลับ MI6 มือฉมังที่ต้องปกป้องสองผู้นำโลกจากการลอบสังหาร ผู้กำกับเผยว่าเธอลงแรงซ้อมคิวบู๊แบบจริงจัง ทั้งศอก เข่า ฟัน หมัด ทำเต็มที่ทุกอย่างเพื่อความสมจริง ไม่ใช่แค่สวยหลอกตา
ฉากเทศกาลปามะเขือเทศที่สเปน แต่ถ่ายทำที่ฝรั่งเศส
แม้ฉากเปิดเรื่องเทศกาลปามะเขือเทศจะเป็นงาน Tomatino Festival ของสเปน แต่ทีมถ่ายทำสร้างโลเคชั่นขึ้นใหม่ที่เมือง Sospel ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส และใช้ลูกบอลยางสีแดงกว่า 10,000 ลูกแทนมะเขือเทศจริง
Air Force One ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งลำเพื่อใช้ในการถ่ายทำ
เครื่องบิน Air Force One ที่เห็นในหนังถูกสร้างขึ้นเป็นฉากในการถ่ายทำ โดยมีขนาดเท่าของจริง และสามารถเคลื่อนไหวได้หลายทิศทางตามฉากแอ็กชั่น
The Beast – รถประธานาธิบดี กับฉากไล่ล่าสุดระทึกกลางอิตาลี
ฉากรถไล่ล่า “The Beast” กลางถนนเมือง Trieste ประเทศอิตาลี คือหนึ่งในฉากที่ท้าทายที่สุด ใช้การถ่ายทำทั้งกลางถนนจริงและบนฉากจำลอง โดยผู้กำกับและทีมงานต้องซ้อมฉากในพื้นที่แคบมากๆ อย่างละเอียด เพื่อเก็บอารมณ์ขันและจังหวะแอ็คชั่นไปพร้อมกัน
โลเคชั่นข้ามประเทศ ถ่ายทำถึง 4 ประเทศในยุโรป
ภาพยนตร์เรื่องนี้เดินทางไปถ่ายทำในอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และเซอร์เบีย เพื่อให้ได้บรรยากาศการผจญภัยระดับโลกอย่างแท้จริง
Ilya Naishuller เป็นผู้กำกับสายเพลง…ที่เห็น “สี” ของเพลงได้
Ilya ใช้เพลงเป็น “เข็มทิศ” ของหนัง ตั้งแต่ขั้นตอนการวางสตอรี่บอร์ด เขาเริ่มวางลิสต์เพลงตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำ พร้อมจินตนาการถึงแต่ละฉาก โดยเขามีภาวะ synesthesia ที่สามารถ "เห็นสีของเพลง" ซึ่งช่วยให้เขาเลือกเพลงที่ตรงกับอารมณ์ภาพยนตร์ได้แม่นยำ
หนังบู๊สายฮา = หนังเยียวยาหัวใจ
ผู้กำกับ Ilya Naishuller บอกว่า เขาทำหนังเรื่องนี้เพราะอยากให้ผู้ชม "สนุกสุดๆ ไปกับการหลบหนีจากความเป็นจริง 2 ชั่วโมงเต็ม" นี่คือภาพยนตร์ที่สร้างมาเพื่อความบันเทิงล้วนๆ และอยากให้คนดูยิ้มออกอย่างแท้จริง
บทสัมภาษณ์นักแสดง
สัมภาษณ์ John Cena (รับบท Will Derringer+)
+
ช่วยแนะนำตัวละครของคุณให้เราฟังหน่อย
ผมรับบทเป็นว่าที่ประธานาธิบดี วิล เดริงเจอร์ (Will Deringer) ครับ คุณจะได้เห็นเขาเดินทางไปสร้างสัมพันธไมตรีในสหราชอาณาจักร เขาเป็นนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นประธานาธิบดี ไม่ได้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเท่าไรนัก แต่ก็ชดเชยเรื่องนั้นด้วยความมุ่งมั่นล้วนๆ เลย
ความสัมพันธ์ของคุณกับแซม ตัวละครของไอดริส (Idris Elba) เริ่มต้นอย่างไร
เป็นความสัมพันธ์ที่ตึงๆ หน่อยครับ เพราะว่าแซมสนับสนุนคู่แข่งของผมในช่วงเลือกตั้ง แล้วผมดันชนะ ผมเป็นคนที่ต้องการให้ทุกคนชอบ ก็เลยพยายามเอาชนะใจเขาในระหว่างเดินทางมาเข้าพบราชวงศ์ แต่ผมก็ยังมัวโฟกัสอยู่แต่กับตัวเอง จนไม่ค่อยได้ฟังในสิ่งที่เขาพูดเท่าไร
แล้วโนเอล ตัวละครของปริยังกา (Priyanka Chopra Jonas) ล่ะ
เธอเป็นเจ้าหน้าที่ฝีมือดีในหน่วยสืบราชการลับที่เคยทำงานกับตัวละครของไอดริสในอดีตครับ พวกเขาแยกทางกันหลังจากที่เขาออกจากหน่วย เธอมาปรากฏตัวตอนที่เราคิดว่าเธอจากไปแล้ว และกลายเป็นพันธมิตรคนเดียวของเรา นอกจากนี้ ระหว่างเธอกับไอดริสยังมีความหลังบางอย่างที่ผมพยายามจะทำความเข้าใจด้วย
คุณสนุกกับการสวมบทเป็นตัวละครนี้ไหม
ผมรักการทำงานในกองถ่ายเสมอครับ แต่รอบนี้มีความพิเศษเพราะว่าผมได้ร่วมงานกับนักแสดงที่สุดยอดอย่างปริยังกาและไอดริส ส่วน อิเลีย (Ilya Naishuller - ผู้กำกับ) ก็ยอดเยี่ยมมาก เขามุ่งมั่นมากในการที่เราจะได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ จนผมต้องฝึกซ้อมเยอะสุดๆ ผมไม่ได้รับการฝึกแบบจริงจัง ดังนั้นการที่ผมได้ทำงานกับทีมงานมืออาชีพเหล่านี้เลยเหมือนได้เข้าเรียนมาสเตอร์คลาสทุกวันเลย
คุณกับไอดริสมีวิธีสร้างเคมีระหว่างตัวละครอย่างไรบ้าง
มันเป็นธรรมชาติมากครับ เพราะว่าในชีวิตไอดริสกับผมก็มีบุคลิกที่ต่างกันอยู่แล้ว พวกเขาสร้างตัวละครของผมให้เป็นประธานาธิบดีห่ามๆ ที่อ่อนประสบการณ์และใจร้อน ส่วนเขาเป็นนายกรัฐมนตรีช่างเหน็บแนมแต่เท่าทันสถานการณ์ ซึ่งบทก็เปิดโอกาสให้เราได้โชว์จุดแข็งของเราออกมาอย่างเต็มที่
คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้มันเป็นความสัมพันธ์ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลิดเพลินที่ได้ดู
ผมคิดว่ามันเวิร์กเพราะว่าความเป็นธรรมชาติ และการที่เราไม่ได้พยายามมากเกินไปครับ เช่น การที่ตัวละครของผมเป็นนักแสดงที่ไม่เคยฝึกทักษะการต่อสู้มาก่อน ดังนั้นในฉากต่อสู้ ผมเลยเป็นคนที่จะต้องทำพลาด ในขณะที่ไอดริสซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับจะรู้ว่าเขากำลังทำอะไร ผมไม่จำเป็นต้องดูแข็งแกร่ง หนังเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการแบบนั้น
เล่าเรื่องตัวละครของแจ็ค เควด (Jack Quaid) ให้เราฟังหน่อย
แจ็คยอดเยี่ยมมากในบทพันธมิตรที่เราพบในเซฟเฮาส์ ในเรื่องเขาเป็นคนเก็บตัว แต่ก็ทุ่มเท ตอนแรกไอดริสกับผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไงกับเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เห็นว่าเขาเป็นตัวละครที่คนจะรักเลยล่ะ ผมแทบอดใจรอไม่ไหวที่คนดูจะได้เห็นเลยครับ
สัมภาษณ์ Idris Elba (รับบท +Sam Clarke)
+
ช่วยแนะนำตัวละครของคุณให้เราฟังหน่อยได้ไหม
ผมรับบทเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แซม คลาร์ก (Sam Clarke) ซึ่งเป็นเหมือน “หยิน” ที่คอยถ่วงสมดุลให้กับ “หยาง” ของประธานาธิบดีอเมริกาที่รับบทโดย จอห์น ซีน่า ใน Heads of State ครับ
อะไรคือเหตุผลที่คุณตอบตกลงรับบทนี้
อย่างแรกเลยคือ ผมอยากร่วมงานกับจอห์น ซีน่าอีกมากๆ ครับ เคมีของเราสองคนใน Suicide Squadมันสุดยอดมาก และเราก็จะได้ทำตามคำสัญญาที่ว่า “ไว้มาทำงานด้วยกันอีกนะ” ซึ่งนักแสดงมักจะพูดกันตลอดแต่ไม่เคยได้ทำซักที นอกจากนี้ ผมก็ชอบผู้กำกับ อิเลีย (Ilya Naishuller) ด้วยครับ หลังจากได้เห็นผลงานของเขาใน Nobodyกับ Hardcore Henryผมก็รู้เลยว่าจะได้อะไรแปลกใหม่จากเขาในหนังเรื่องนี้แน่นอน และเอาจริงๆ คือผมแค่อยากจะสนุกกับการแสดงคอเมดี้บ้าง อยากออกไปเล่นอะไรตลกๆ บ้าๆ บอๆ กับเขาซักครั้งบ้างน่ะครับ
อะไรดึงดูดให้คุณสนใจรับบทในหนังแนวแอ็กชั่น-คอเมดี้
หนังแอ็กชั่น-คอเมดี้ได้มอบช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำให้เรามากมายตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา คุณนึกออกไหมครับ เวลาที่เราเอาตัวละครเจ๋งๆ ไปอยู่ในสถานการณ์สุดป่วน มันทำให้เราได้หลีกหนีความจริงแบบเต็มที่เลย เดี๋ยวก็หัวเราะ อีกเดี๋ยวก็ลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ Heads of Stateเลยเป็นจดหมายรักที่เราตั้งใจมอบให้ผลงานคลาสสิกยุค 90 อย่าง Lethal Weaponและ Beverly Hills Copที่มีทั้งแอ็กชั่นตู้มๆ และตัวละครเจ๋งๆ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้
สิ่งที่ทำให้ตัวละครสองตัวนี้เป็นคู่ตรงข้ามที่คลาสสิกสุดๆ คืออะไร เราหมายถึงว่า คาแรคเตอร์พวกเขานี่ต่างกันสุดขั้วเลยใช่ไหม
มันเป็นการเล่นกับเคมีที่เกิดขึ้นระหว่างสายขรึมกับสายฮาเลยล่ะ แซม คลาร์ก ตัวละครของผม เป็นนายกรัฐมนตรีอารมณ์บูดที่ผ่านสนามการเมืองมานาน ส่วนตัวละครของจอห์นก็เป็นคนประเภท “เฮ้ ไม่ต้องห่วงน่า ผมนี่แหละประธานาธิบดีอเมริกา!” สองคนนี้สั่งอาหารเที่ยงมากินด้วยกันยังไม่รอดเลย นึกออกไหมครับ ตอนเริ่มเรื่องคุณจะคิดเลยว่า “สองคนนี้มันต้องเกลียดกันแน่ๆ” แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงในแบบที่ค่อนข้างกินใจเลยทีเดียว
ในชีวิตจริง คุณกับจอห์น ซีน่า ต่างกันแค่ไหน เขาชื่นชมคุณมากเรื่องความเข้าอกเข้าใจคนอื่น และบอกว่าได้เรียนรู้จากคุณหลายอย่าง แล้วคุณล่ะ ได้เรียนรู้อะไรจากเขาบ้าง
ผมได้เรียนรู้จากจอห์นหลายอย่างเลยครับ คุณอาจจะมีภาพจำหลายอย่างเกี่ยวกับเขาจากการเป็นนักมวยปล้ำและจากบทสัมภาษณ์ต่างๆ แต่พอได้เจอเขา ผมก็รู้สึกว่า โอ้โห เขามีพรสวรรค์มากและเตรียมพร้อมเสมอ เขาจำบทของคนอื่นๆ ได้ ไม่ใช่แค่บทตัวเอง อีกอย่างคือ เขาแสดงในฉากที่ต้องพูดภาษาจีนได้ด้วย! เขามีวินัยสุดๆ ตรงต่อเวลาเสมอ แถมยังเป็นนักอ่านตัวยงที่จะนั่งอ่านหนังสือหนา 700 กว่าหน้าเกี่ยวกับอะไรซับซ้อนอย่างเทววิทยาอะไรอย่างนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งจริงๆ ก็คือการด้นสดของเขา เขาสามารถสร้างโมเมนต์ฮาๆ แบบสุ่มๆ ออกมาได้อย่างกับมีคนเขียนบทไว้ล่วงหน้ายังไงอย่างงั้น แทบจะเป็นพรสวรรค์ระดับอัจฉริยะเลยล่ะครับ
สัมภาษณ์ Priyanka Chopra Jonas (รับบท +Noel Bisset)
+
โนเอลเป็นใคร และเราจะได้เห็นเธอครั้งแรกในช่วงไหนของภาพยนตร์
คุณจะได้เห็นโนเอลครั้งแรกที่เทศกาลปามะเขือเทศ (Tomatina) ค่ะ ตอนแรกเธอดูเหมือนจะเป็นนักข่าว แต่เซอร์ไพรส์! จริงๆ แล้วเธอเป็นนักฆ่าที่ติดอยู่ในสถานการณ์วุ่นวายนี้ จากนั้นเธอหายตัวไปพักหนึ่งก่อนจะกลับมาอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือสองหนุ่ม การกลับมาของเธอน่าสนใจมากทีเดียว เพราะเธอกับแซมมีอดีตบางอย่างร่วมกัน และทุกคนก็ตกใจที่ได้เจอกันอีกครั้งในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ เธอเป็นนักฆ่าที่ชอบเล่นมุกที่เล่นกับคำแบบแป้กๆ ฉันสนุกกับบทนี้มากๆ ถึงขั้นเผลอเล่นมุกพวกนี้ในชีวิตจริงเลยค่ะ
ช่วยเล่าเรื่องสามตัวละครหลักและความสัมพันธ์ของพวกเขาให้ฟังได้ไหม
เรามี ไอดริส ที่รับบท “แซม” นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และ จอห์น รับบท “วิล” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทั้งสองไม่ถูกกันค่ะ แล้วพวกเขาก็ดันมาติดอยู่ในเหตุการณ์ระดับนานาชาติครั้งใหญ่ ดังนั้นตัวละครของฉัน “โนเอล” ก็เลยต้องรับหน้าที่ปกป้องบุคคลสำคัญระดับโลกสองคนนี้ในขณะที่พวกเขาเอาแต่ทะเลาะกันไม่หยุด มันเป็นความตึงเครียดที่สนุกดีค่ะ แซมกับวิลมักจะเถียงกันตลอด และดูเหมือนว่าระหว่างโนเอลกับแซมอาจจะมีอดีตอะไรบางอย่างด้วย ขณะที่วิลก็มักจะพูดประมาณว่า ‘นี่ไม่ใช่เวลาหรอกนะพวก!’ เราเป็นคนประหลาดสามคนที่ถูกเหวี่ยงให้มาอยู่ด้วยกัน แล้วก็ต้องพยายามเอาชีวิตรอด อะไรประมาณนี้ค่ะ
สิ่งที่ทำให้การแสดงของ จอห์น และ ไอดริส ในบทบาทผู้นำประเทศในเรื่องมีเอกลักษณ์คืออะไร
พวกเขาสองคนตรงข้ามกันสุดขั้วเลยค่ะ แซมจะเป็นคนจริงจัง มุ่งมั่นกับการเมืองแบบสุดๆ ส่วนวิลเป็นอดีตดาราหนังรักชาติที่สนใจแต่เรทติ้งความนิยม ส่วนฉันอยู่ตรงกลาง อารมณ์ว่า ‘แค่ทำให้สองคนนี้มีชีวิตรอดก็พอ!’ เราถ่ายทำในรถ The Beast ด้วยกันถึงสี่วันเต็มๆ เวลาเห็นพวกเขาสวมบทเป็นตัวละครของตัวเองมันสุดยอดมากจริงๆ ค่ะ ระหว่างพักถ่ายทำแต่ละเทคพวกเราก็คุยกันสนุกมากๆ มีแค่เราสามคนกับทีมเสียงเท่านั้นเลยค่ะ
ความทรงจำขณะถ่ายทำที่คุณชอบที่สุดคืออะไร
ทุกอย่างมันน่าประทับใจไปหมดเลยค่ะ แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดคือลูกสาวของฉันได้มาอยู่ในกองถ่ายหนังครั้งแรกในชีวิต เธอแค่สองขวบครึ่งเองค่ะ ทีมงานทุกคนน่ารักมาก มันหาได้ยากมากนะคะที่จะรู้สึกผูกพันกับคนในกองแบบนี้ ปกติเสร็จงานก็แยกย้ายกันไป แต่ครั้งนี้มันให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป
เรื่องนี้ถือเป็นการคารวะภาพยนตร์แอ็กชั่น-คอเมดี้ ยุค 80s–90s อย่างไรบ้าง
หนังเรื่องนี้ถือเป็นการอุทิศให้กับภาพยนตร์แอ็กชั่น-คอเมดี้ยุค 80s–90s แบบเต็มตัวเลยล่ะค่ะ เหมือน Die Hardหรือหนังของอาร์โนลด์ ที่มีทั้งมุกตลก ระเบิดตูมตาม และฮีโร่ที่รอดจากสถานการณ์ที่ไม่น่าจะรอดมาได้เสมอ มันเดินเรื่องเร็ว และให้กลิ่นอายความรู้สึกแบบหนังคลาสสิกในตำนานจริงๆ ค่ะ
สัมภาษณ์ Jack Quaid (รับบท Marty Comer)
ช่วยแนะนำตัวละครที่คุณรับบท และเล่าให้เราฟังหน่อยว่าเขาเจอกับวิลและแซมได้อย่างไรผมรับบทเป็น มาร์ตี้ โคเมอร์ เจ้าหน้าที่ CIA เพียงคนเดียวที่ประจำฐานในเซฟเฮาส์ในเมืองวอร์ซอ เป็นเซฟเฮาส์ที่ฉากหน้าเป็นบริษัทเหมือง Golden Mountain เขาใช้ชีวิตที่นี่เหมือนเป็นบ้านของตัวเอง มีทั้งวิดีโอเกม มีขนมให้กินไม่อั้น แล้วก็ทำงานที่นั่นเลย แล้ววันหนึ่งประธานาธิบดีกับนายกฯ ก็โผล่มาขอหลบภัย มาร์ตี้ถึงกับช็อกไปเลยครับเพราะว่าประธานาธิบดีเดริงเจอร์เป็นฮีโร่ในดวงใจของเขา เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮีโร่ที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวหน้าประตู!
รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับจอห์นและไอดริส
พวกเขาน่าทึ่งสุดๆ เลยครับ ในเรื่องผมต้องแสดงอาการปลื้มพวกเขา บอกเลยว่าไม่ต้องแสดงเลยจริงๆ เคมีของทั้งคู่มันยอดเยี่ยมมากและแค่ได้อยู่ในห้องเดียวกับพวกเขาก็ถือเป็นเกียรติแล้วจริงๆ
คุณมีติดคำพูดแบบอังกฤษกลับมา หลังจากถ่ายทำที่ลอนดอนบ้างไหม
ตอนนี้ผมพยายามใช้คำว่า ‘Lovely’ กับทุกอย่าง ‘Lovely chat?’ ‘Lovely drink?' มันทำให้ทุกอย่างฟังดูดีขึ้นมาก ส่วนคำว่า ‘Cheeky’ นี่คือที่สุด สมมติถ้ามีใครชวนว่า ‘Cheeky cigarette?’ ทั้งที่ผมไม่สูบบุหรี่แต่ผมอาจจะตอบตกลงก็ได้ มันทำให้ทุกอย่างฟังดูเหมือนความลับเล็กๆ ที่สนุกดีครับ
มาร์ตี้ทำงานอะไรบังหน้าตอนที่อยู่เซฟเฮาส์เขาแกล้งทำเป็นคนดูแลเหมืองแร่ แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครมาหาเขาเพื่อตรวจสอบเป็นปีแล้วล่ะครับ ผมเล่นบทนี้ให้เหมือนกับตอนที่ตัวเองกักตัวอยู่บ้านมาแล้วสองอาทิตย์ คือจะดูเป็นคนแปลกๆ หน่อยเพราะว่าอยู่คนเดียวมานาน ไม่ค่อยชินกับการต้องคุยกับคนจริงๆ อะไรแบบนั้นน่ะครับ
มาร์ตี้รับมือกับภัยคุกคามที่เซฟเฮาส์อย่างไรบ้าง
มันเป็นสิ่งที่มาร์ตี้รอคอยเลยล่ะครับ เขาเตรียมตัวไว้พร้อมสุดๆ มีทั้งคลังอาวุธ กับดัก ทุกอย่างครบมือ จริงๆ คือเขาตื่นเต้นด้วยซ้ำครับ เพราะในที่สุดก็จะได้ปกป้องไอดอลของตัวเองที่เป็นนักแสดงจากหนัง Water Cobra และแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาเองก็มีดีเหมือนกันนะ