“ปานเทพ” เผยยอดบริจาคทะลุ 30 ล้าน หักค่าใช้จ่ายชุมนุม 2 ล้าน เหลือซื้ออุปกรณ์-สิ่งของมอบให้กองทัพมากกว่า 28 ล้านบาท
“ปานเทพ” ย้ำจุดยืน “สนธิ” สอดคล้องรวมพลังแผ่นดินฯ ไม่เอารัฐประหาร เผยยอดบริจาคก่อนปิดบัญชีทะลุ 30 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายสำหรับการชุมนุมรวม 2 ล้าน เหลือมอบให้กองทัพมากกว่า 28 ล้าน แบ่งเป็นซื้ออุปกรณ์สิ่งของให้กองทัพภาคที่ 2 ราว 27 ล้านบาท มอบกองทัพภาคที่ 1 อีก 1 ล้านบาทเศษ ด้าน อ.ลักขณา ดิษยะศริน มอบส่วนตัวให้กองทัพเรือ 1 ล้านบาท
วันนี้(1 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ รร.รัตนโกสินทร์ มีการแถลงข่าวของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย สืบเนื่องจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้แถลงว่า ขอชี้แจง 2-3 เรื่องที่สําคัญ เรื่องที่หนึ่ง ตนได้รับมอบหมายจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้มาตอกย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าจุดยืนของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยเป็นสิ่งที่คนายสนธิสนับสนุนทุกประการ ไม่ได้เอาด้วยกับการรัฐประหารน และยืนยันใน 2 ข้อหลัก คือ 1.นายกรัฐมนตรีลาออก และ 2. พรรคร่วมรัฐบาลลาออก จุดยืนเรื่องนี้ยังเป็นจุดยืนที่ตรงกันทุกประการ
นายปานเทพกล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ขอแจ้งเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ถูกครหาและด้อยค่าก่อนหน้านี้ว่าการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยนั้นมีนายทุนหนุนหลัง เรียนให้ทราบว่า พอเราเปิดรับบริจาคถึงเมื่อวานนี้คือวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งเราจะปิดบัญชี ปรากฏว่ายอดรวมบริจาคทั้งหมด 30,771,060 บาท และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยเงินจํานวนขนาดนี้มีผู้บริจาครวมทั้งสิ้น 56,200 คน
ส่วนค่าใช้จ่ายในการชุมนุมทั้งหมด ได้คิดคํานวณตั้งแต่วันแถลงข่าว การรณรงค์ การเดินตระเวนในการรณรงค์ทั้งหลาย รวมไปถึงการจัดเวทีการถ่ายทอดสด รวมถึงการ์ดการรักษาความปลอดภัย อาหาร ฝ่ายพลาธิการ การเช่าเต็นท์ การเช่าเวที การซื้อธงบางส่วน ทั้งหมดใช้จ่ายไปทั้งสิ้น 2,072,535 บาท ทําให้เหลือค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นสําหรับความมั่นคงของประเทศที่จะมอบให้ส่วนต่างๆ 28,698,525 บาท ในส่วนนี้ได้ถูกแจ้งจํานงค์ไม่อยู่ในวัตถุประสงค์ของบัญชีตั้งแต่แรก แต่อยู่ในวัตถุประสงค์ของผู้โอนว่าจะขอมอบให้กองทัพภาคที่ 1 ทั้งสิ้น 1,100,000 บาท จึงเหลือเงินที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการมอบให้กับกองทัพภาคที่ 2 ทั้งสิ้น 27,598,525 บาท
นายปานเทพกล่าวต่อว่า ในจํานวนนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ประการที่หนึ่งท่านขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่รวมพลังกันในการสนับสนุนในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยของชาติ และประการที่ 2 ท่านได้แจ้งความประสงค์ว่าไม่ประสงค์จะรับเงินสด เนื่องด้วยถ้ารับเงินสดจะต้องมีกลไกและคณะกรรมการอีกหลายขั้นตอน และอาจจะทําให้ไม่สะดวกในระบบราชการ
ด้วยเหตุผลนี้จึงได้ประสานกับกองทัพภาคที่ 2 ว่าต้องการสิ่งใด ขอให้บอก เราขอแจ้งโดยหลักการเบื้องต้นว่า 1.จะทําการจัดซื้อจัดหาอากาศยานไร้คนขับลาดตระเวนป่าไม้ในเวลากลางคืน ซึ่งเพื่อความมั่นคงแห่งรัฐจะขออนุญาตไม่บอกรุ่นและสเปกให้ชาติใดเขารู้ แต่คณะกรรมการทั้งหมดได้รับทราบแล้ววงเงินที่จะใช้ก็จะไม่บอกจํานวนด้วย แต่เตรียมเงินไว้ทั้งสิ้น 11,060,000 บาท
นายปานเทพกล่าวต่อว่า ประการที่ต่อมา เกี่ยวข้องกับหมวดที่ว่าด้วยเรื่องของสาธารณูปโภคเพื่อความปลอดภัยของทหาร เช่น ความเป็นอยู่ การเข้าถึงฐานปฏิบัติการ การอํานวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำสําเร็จรูปไฟเบอร์กลาส จํานวน 15 หน่วย ถังน้ำ 1,000 ลิตร จํานวน 30 หน่วย ตู้คอนเทนเนอร์จํานวน 3 หน่วย แผ่นพื้นคอนกรีตแบบตันลวด 6 เส้นขนาด 0.35 เมตร ถึง 4 เมตร 400 หน่วย รถตักหน้าขุดหลังล้อยาง 1 หน่วย รถไถนาเดินตามรวมโครง 10 หน่วย รถขุดบางรุ่นอีก 3 หน่วย ทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะขุดสิ่งใดก็ตาม ขอสงวนในการไม่แจ้งวัตถุประสงค์ แต่จะเป็นไปเพื่อความมั่นคงของทหารหาญที่อยู่ที่นั่นให้ปลอดภัยที่สุดครับ ในส่วนนี้เราจัดสรรตามที่กองทัพได้เสนอมาทั้งสิ้น 10,055,000 บาท
นายปานเทพกล่าวอีกว่า ส่วนที่ 3 เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคและความเป็นอยู่ด้านการใช้พลังงานทั้งสิ้น เช่น เครื่องปั่นไฟ 16 หน่วย หรือรวมไปถึงแบตเตอรี่ 30 หน่วย โซลาร์เซลล์ จํานวน 15 หน่วย สายไฟอีกหลายชนิดหลายร้อยหน่วย แต่ถึงกระนั้นก็ได้แจ้งวัตถุประสงค์ให้คณะทํางานในกลุ่มนี้ทราบว่ามีกลุ่มคนผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยกันเสริมศักยภาพในการใช้โซล่าเซลล์ในฐานปฏิบัติการใหญ่และปฏิบัติการย่อยหลายจํานวน ผู้เชี่ยวชาญที่จะประสานได้ ได้แก่ กองทัพธรรม ซึ่งทําเรื่องโซล่าเซลล์มาโดยตลอด และมีความโปร่งใสแน่นอน ที่จะมาช่วยกันหารือ รวมไปถึงทาง น.ส.รสนาโตสิตระกูล รวมถึงท่านเจ้าคุณโซล่าเซลล์ที่ทํามาตลอดชีวิต รวมถึงได้ประสานกับทาง ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการวางทีโออาร์ ในเรื่องของไฟทั้งหมด จะเกิดประโยชน์สูงสุดให้ความสว่างด้วยพลังธรรมชาติ ให้ความมั่นคงต่อประเทศอย่างแน่นอน
นายปานเทพกล่าวว่า ในการนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ประสานเรื่องถุงเท้าดํา กางเกงใน เสื้อยืดรองใน ซึ่งมักจะถูกมองข้าม ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร ท่านก็เลยแจ้งมา เราก็จะจัดให้จํานวนมาก บางรายการจะต้องเตรียมไว้ เช่น ถุงเท้าดํา 20,000 หน่วย กางเกงใน 15,000 หน่วย เสื้อยืดรองใน 10,000 หน่วย ที่เราจะต้องทําหน้าที่ให้กับกองทัพหลังจากนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อรวม 3 ยอดนี้ ขณะนี้ปรากฏว่า ยอดเงินที่เตรียมไว้ใช้ประมาณ 25 ล้านบาท ดังนั้นเรายังเหลือเงินอีก 2 ล้านบาท จะทําการประสานเพิ่มเติมเพื่อใช้เงินให้หมดจนเกิดประโยชน์สูงสุดสูงสุดกับกองทัพภาคที่ 2
ด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในหมวดการเงินที่มีผู้ประสงค์จะมอบแยกนอกบัญชีอีก อาจารย์ลักขณา ดิษยะศริน ได้แจ้งความประสงค์ในการที่จะมอบให้กองทัพเรือด้วย เพราะว่าอยู่บริเวณชายแดน บริเวณเกาะกูดด้วย ก็เป็นการมอบส่วนตัวของท่านอีก 1 ล้านบาทให้กับกองทัพเรือต่อไป โดย อ.ลักขณาจะเดินทางไปมอบที่กองทัพเรือ อ.สัตหีบ ในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค.นี้เวลา 11.00 น.
ส่วนการมอบสิ่งของให้แม่ทัพภาคที่ 2 จะมอบกันที่ปราสาทตาเมือนธม โดยจะได้นัดวันเวลาต่อไป
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO