"มงคล ประกิตชัยวัฒนา" ขายบิ๊กล็อตโกย 5.5 พันล้าน ทุบราคาหุ้น KTC ดิ่งฟลอร์

จากกรณีที่ราคาหุ้น บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ร่วงดิ่งฟลอ และมีแรงขายบิ๊กล็อตอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ก่อนนั้น ล่าสุดข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปแบบ 246-2 ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2568 พบว่า มีรายงานการจำหน่าย หุ้นของ KTC โดยนายมงคล ประกิตชัยวัฒนา

โดยเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย จำนวน 195,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 7.563% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย เหลือจำนวน 132,466,600 หุ้น หรือหรือคิดเป็น 5.1376% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยคิดเป็นมูลค่า 5,167,500,000 บาท (ตามราคาปิดตลาด ณ วันที่ 25 มิ.ย.68 ที่ระดับ 26.50 บาท)

ทั้งนี้ รายการจำหน่ายหุ้น KTC ดังกล่าวผ่านบริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ บล.ไอร่า, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย), บล.พาย, บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย), บล. เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บล. กรุงศรี พัฒนสิน, บล.หยวนต้า และ บล. กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ในวันเดียวกันดังกล่าว ยังมีรายงานว่านายมงคล ได้จำหน่ายหุ้นของบริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย จำนวน 16,950,000 หุ้น หรือ คิดเป็น 4.0386% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย เหลือจำนวน 52,704,800 หุ้น หรือคิดเป็น 12.5577% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งเป็นการทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ CGSI โดยคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 44,409,000 บาท (ตามราคาปิดตลาด ณ วันที่ 25 มิ.ย.68 ที่ระดับ 2.62 บาท)

รวมถึงยังได้จำหน่ายหุ้นของบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย จำนวน 630,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 5.8877% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย เหลือจำนวน 21,209,995 หุ้น หรือคิดเป็น 0.1982% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งเป็นการทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ หยวนต้า (Yuanta) โดยคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 283,500,000 บาท (ตามราคาปิดตลาด ณ วันที่ 25 มิ.ย.68 ที่ระดับ 0.45 บาท)

ขณะเดียวกันพบว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นางสาวฉันทนา จิรัฐิติภัทร์ (ภรรยานาย มงคล ประกิตชัยวัฒนา) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของทั้ง KTC BEC และ TPS นั้น มีการจำหน่ายหุ้น บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC โดยจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย จำนวน 134,250,000 หุ้น หรือคิดเป็น 6.7125% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งเป็นการทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ คือ Maybang Securities และ CGSI โดยคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 245,677,500 บาท (ตามราคาปิดตลาด ณ วันที่ 25 มิ.ย.68 ที่ระดับ 1.83 บาท)

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ทาง KTC ได้มีการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงธุรกรรมเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมาด้วยว่า การซื้อขาย Big Lot ข้างต้น อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหรือลำดับการถือหุ้น

โดย ณ ขณะที่รายงานยังไม่พบการรายงานแบบ 246-2 (แบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์) จึงยังไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นที่อาจจะเกิดขึ้น โดย บมจ.ธนาคารกรุงไทย ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่ 1 และโครงสร้างคณะกรรมการ โครงสร้างผู้บริหาร รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

นอกจากนี้ วานนี้ (30 มิ.ย. 68) หุ้น KTC ยังมีรายการบิ๊กล็อตโผล่อีก จำนวน 14 รายการ ปริมาณ 243,620,200 หุ้น มูลค่า 5,610,891,250 บาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น KTC วันนี้ 1 ก.ค.68 ณ เวลา 10.38 น. อยู่ที่ระดับ 24.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 0.42% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้า กรอบการแกว่งตัวของราคาสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 24.80 - 24.00 บาท มีมุลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 1,418.34 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้น BEC วันนี้ ณ เวลา 10.38 น. อยู่ที่ระดับ 1.86 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 1.06% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้า กรอบการแกว่งตัวของราคาสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1.90 - 1.86 บาท มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 50.35 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น TPS วันนี้ ณ เวลา 10.38 น. อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 0.78% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้า กรอบการแกว่งตัวของราคาสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 2.64 - 2.56 บาท มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 3.41 ล้านบาท

และราคาหุ้น XPG วันนี้ ณ เวลา 11.04 น. อยู่ที่ระดับ 0.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 2.04% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้า กรอบการแกว่งตัวของราคาสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 0.50 - 0.49 บาท มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 41.29 ล้านบาท