ETDA คุมเข้ม! “แอปเรียกรถ” ไรเดอร์ต้องมีใบขับขี่สาธารณะ พร้อมจดทะเบียน “รย.18”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 68 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เรื่อง การดำเนินการอื่นสำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทบริการรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รับจ้างโดยสารสาธารณะที่มีลักษณะเฉพาะตามมาตรา 18 (3) แห่งพระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2568
โดยมีสาระสำคัญหลัก คือ กำหนดให้ผู้ขับรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ต้องจดทะเบียนรถสาธารณะและต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ตามเงื่อนไขในการให้บริการสาธารณะ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด นอกจากนี้ ประกาศดังกล่าวยังกำหนดให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถ ต้องมีบริการหรือมีการเก็บข้อมูลตามที่คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด
ทำใบขับขี่รถสาธารณะ ต้องทำอย่างไร ?
1.) มีใบขับขี่รถส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล รถสามล้อส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
2.) ทำใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ เช่น ใบขับขี่แท็กซี่ และรถยนต์สามล้อสาธารณะ ต้องมีอายุ 22 ปีขึ้นไป ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
3.) ไม่มีโรคประจำตัว และร่างกายไม่พิการจนไม่สามารถขับรถได้
4.) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
5.) มีความสามารถในการขับรถ และเข้าใจกฎจราจร
6.) ไม่อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่
7.) ไม่เคยมีคดีเกี่ยวกับการขับรถ หรือโดนปรับตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป
8.) ไม่เคยต้องโทษจำคุกในคดีต่าง ๆ แต่หากเคยรับโทษ ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้
(1)กรณีจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ต้องพ้นโทษมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน (2)กรณีจำคุกเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องพ้นโทษมาไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน (3)กรณีจำคุกเกิน 3 ปี ต้องพ้นโทษมาไม่น้อยกว่า 3 ปี (4)กรณีอื่น ๆ เช่น โดนปรับ รอลงอาญา รอขึ้นศาล ต้องมีเอกสารทางคดีจากสถานีตำรวจมายืนยันชี้แจงเกี่ยวกับคดีความ
ทั้งนี้ ขั้นตอนในการทดสอบและทำใบขับขี่รถสาธารณะ เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
เอกสารที่ต้องมี สำหรับทำใบขับขี่รถสาธารณะ
1.) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
2.) ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลมีอายุไม่น้อยกว่า 1 ปี
3.) ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
4.) ค่าธรรมเนียม (1)กรณีรถยนต์สาธารณะ อายุ 3 ปี ค่าธรรมเนียม 300 บาท (2)กรณีรถยนต์สามล้อสาธารณะ อายุ 3 ปี ค่าธรรมเนียม 150 บาท (3)กรณีรถจักรยานยนต์สาธารณะ อายุ 3 ปี ค่าธรรมเนียม 150 บาท โดยมีค่าคำขอ 5 บา
อีกทั้งยังมีเงื่อนไขการจดทะเบียน “รถสาธารณะ” ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยมี 3 ประเภทรถสาธารณะที่ระบุไว้ในประกาศฉบับดังกล่าว ดังนี้
1.) รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (รย.6)
2.) ห้ามกว้างเกิน 2.50 เมตร และยาวไม่เกิน 6 เมตร
3.) มีประตูไม่ต่ำกว่าสี่ประตู ซึ่งต้องเป็นประตูที่มิได้ติดตั้งระบบควบคุมการปิดเปิดประตูรถจากศูนย์กลาง (CENTRAL LOCK)
4.) กระจกกันลมต้องโปร่งใสเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในรถและสภาพการจราจรภายนอก
5.) ห้ามติดวัสดุใดหรือปิดส่วนใด ของกระจก เว้นแต่เป็นเครื่องหมายหรือเอกสารตามที่กฎหมายกำหนด หากติดวัสดุที่มีลักษณะบังหรือกรองแสงแดดที่กระจกกันลมหน้าจะต้องปฏิบัติตามขนาดที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
6.) เครื่องยนต์ต้องมีความจุในกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 1,000 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
สำหรับประเภทรถจดทะเบียนรถยนต์รับจ้าง หรือ รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 17 เมษายน 2535 ข้อกำหนดคือต้องเป็นรถเก๋งสองตอนหรือรถเก๋งสองตอนที่มีพื้นที่บรรทุกภายในรถ ตัวรถต้องผลิตจากสำเร็จจากผู้ผลิตเท่านั้น และมีความกว้างของตัวรถต้องไม่เกิน 2.5 เมตร ความยาวต้องไม่เกิน 6 เมตร มีประตูไม่ต่ำกว่าสี่ประตู และมีเครื่องยนต์ที่มีความจุในกระบอกสูบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ประเภทรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน มีดังนี้
1.) เก๋งสองตอน
2.) เก๋งสองตอนแวน
3.) เก๋งสามตอน
4.) เก๋งสามตอนแวน
5.) นั่งสองตอน
6.) นั่งสองตอนแวน
7.) นั่งสามตอน
8.) นั่งสามตอนแวน
9.) รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รย.17)
ทั้งนี้ จักรยานยนต์ที่ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ความกว้างไม่เกิน 1.10 เมตร ความยาวไม่เกิน 2.50 เมตร และมีความสูงไม่เกิน 2 เมตร ไม่รวมรถจักรยานยนต์ที่มีพ่วงข้างและจักรยานที่ติดเครื่องยนต์
อย่างไรก็ตาม รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือแอปพลิเคชัน (รย.18) รถประเภทดังกล่าว ต้องเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น ไม่สามารถเรียกโบกรถระหว่างทางได้ และต้องคิดค่าบริการจากแอปพลิเคชันเท่านั้นห้ามเรียกราคาเหมาจ่าย
คนขับ-ผู้ใช้งาน-แพลตฟอร์ม ต้องทำอะไรบ้าง ?
โดยคนขับรถผ่านแอปพลิเคชันรถต้องจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.18) ต้องมีใบขับขี่สาธารณะและผู้ขับขี่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวตนด้วยระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ก่อนเริ่มงานทุกวัน โดยห้ามให้คนอื่นใช้บัญชีขับรถแทนเด็ดขาด อีกทั้งยังผู้ขับขี่แชร์ตำแหน่ง GPS ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ และคุยกับลูกค้าได้ผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น ไม่เปิดเผยเบอร์โทรผู้ใช้แอปเรียกรถ
นอกจากนี้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันต้องยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน เลือกประเภทรถได้ และดูราคาประเมินล่วงหน้า โดยยกเลิกหรือเปลี่ยนปลายทางได้ตามเงื่อนไข และการให้คะแนนและร้องเรียนคนขับได้ง่ายขึ้น
สำหรับแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันจะต้องรายงานจำนวนรถทุกประเภทให้กรมขนส่งทางบกทุกปี โดยคิดราคาค่าโดยสารตามกฎหมายที่กำหนดเท่านั้น ไม่ใช่ตั้งราคากันเอง และต้องมีข้อมูลชัดเจน อย่างเช่น คนขับ, ทะเบียน, ราคา, เส้นทาง ก่อนเริ่มเดินทาง โดยที่แอปพลิเคชันจะต้องมีปุ่มขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารก็ตาม โดยต้องมีพนักงานประจำรับแจ้งเหตุ 24 ชม. และเก็บข้อมูลและแสดงประวัติการเดินทางทุกครั้ง