Influencer Marketing ไทยยังเฟื่องฟู ถ้าหนุนยอดขายได้จริง แบรนด์ยอมจ่ายสูงสุด 5 แสนบาท/ดีล
Influencer Marketing ในไทยไม่ใช่แค่เรื่องไวรัลอีกต่อไป!
ครึ่งปีแรกของปี 2568 ชี้ชัดว่า วงการนี้เข้าสู่ “มาตรฐานใหม่” แล้วเรียบร้อย แบรนด์ไม่ได้จ่ายเงินเพื่อยอดไลก์หรือความปังชั่ววูบอีกต่อไป แต่หันมาลงทุนกับ KOL ที่มีระบบวางแผน-วัดผลได้จริง
ดีลเฉลี่ยแตะ 100,000 บาท – KOL ไม่ใช่ของเล่น แต่คือโครงสร้างการขายยุคดิจิทัล
จากข้อมูลของ IdeasLabsผู้เชี่ยวชาญด้าน MarTech Ecosystem สัญชาติไทย พบว่า
แคมเปญที่ใช้ Publisher Services และ KOL ทำยอดขายเติบโตเฉลี่ย 46%บางเดือนพุ่งถึง 70%
มูลค่าแต่ละดีลอยู่ที่ 20,000–500,000 บาทโดยเฉลี่ยประมาณ 100,000 บาทต่อดีล
ช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีการปิดดีลกว่า 400 แคมเปญ
3 กลุ่มอุตสาหกรรม ใช้ Influcer-KOL มากสุด
ทั้งนี้ มี 3 กลุ่ม Influencer Marketing ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าและเติบโตอย่างโดดเด่น ในช่วงครึ่งปี ที่ผ่านมา จนคิดเป็นสัดส่วน 62.48% ของรายได้จาก Publisher Services ทั้งหมดได้แก่
1.อาหารและเครื่องดื่ม (F&B)– 30.47%
2.ค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ (Retail & Lifestyle)– 19.84%
3.ความงามและสุขภาพ (Beauty & Wellness)– 12.17%
วิเคราะห์เทรนด์: วัดผลได้ = ได้เปรียบ
ในยุคที่คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 91%และมีบัญชีโซเชียลถึง 51 ล้านบัญชี
แนวโน้มชัดเจนว่าแบรนด์ที่ "วางแผนล่วงหน้า + มีระบบ Tracking + วัด Conversion ได้" จะเหนือกว่าอย่างชัดเจน เพราะสามารถเปลี่ยนยอด Engagement เป็นยอดขายจริงได้
โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีแบบ API กับ Line OA หรือ Tracking Systems ต่าง ๆ ที่ช่วยให้แบรนด์ไม่ใช่แค่ “จ้างคนดังรีวิว” แต่ “ขับเคลื่อนยอดขาย” ได้จริง
Q3–Q4: ใครวางแผนก่อน คนนั้นชนะ
IdeasLabs ฟันธงว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะดุเดือดโดยเฉพาะกลุ่ม
F&Bยังคงเติบโตสูงสุด ด้วยจำนวนแคมเปญที่ปิดดีลมากกว่า 100 รายการ โดยเร่งใช้ KOL กระตุ้น “ซื้อทันที” ทั้งออนไลน์-ออฟไลน์
Retail & Lifestyleเติบโตจากคอนเทนต์ที่มีความ “สมจริง” และเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยเฉพาะในหมู่ Gen Z และวัยทำงานรุ่นใหม่
Beauty & Wellnessยังเน้นรีวิวแบบมีประสบการณ์ เพื่อความน่าเชื่อถือ
“องค์กรเริ่มวางกลยุทธ์ Influencer ตั้งแต่ไตรมาส 3 เพราะจะทำให้ได้เปรียบในการบริหารต้นทุน สร้างยอดขาย และแปลง Engagement เป็น Conversion ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ดังนั้น ยุคใหม่ของ Influencer ไม่ใช่คนดัง = ยอดขาย แต่เป็น “KOL + ระบบที่วัดผลได้ = โครงสร้างการเติบโตที่แท้จริง”