นทท.ต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสม 19 ล้านตลาดระยะใกล้-ไกลชะลอตัวเหตุกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงผลการประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 - 3 สิงหาคม 2568 เบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 3 ส.ค. 68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 19 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชะลอตัวด้านการเดินทางในทุกกลุ่มตลาด โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลงกว่าร้อยละ 7.17 จากความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ชะลอตัวด้านการเดินทางเช่นกัน โดยเดินทางเข้ามาลดลงกว่าร้อยละ 1.15 ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 585,810 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 32,475 คน หรือร้อยละ 5.25 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 83,687 คน
โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (97,350 คน) มาเลเซีย (77,431 คน) อินเดีย (37,919 คน) เกาหลีใต้ (37,084 คน) และญี่ปุ่น (20,185 คน) โดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 17.77 และร้อยละ 4.16 ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย มาเลเซีย
และจีน มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 13.87 ร้อยละ 8.63 และร้อยละ 5.15 ตามลำดับ
สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การปิดภาคเรียนในภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคเอเชียตะวันออก อาทิ จีน และญี่ปุ่น การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตรตม.6รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
สรุปภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค. 68 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 3 ส.ค. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 19,569,746 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 907,965 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (2,733,160 คน) มาเลเซีย (2,700,103 คน) อินเดีย (1,390,693 คน) รัสเซีย (1,124,467 คน) และเกาหลีใต้ (918,372 คน)