สมุทรสาครผนึกกำลังคณะสงฆ์ ตั้งทีม “ตาสับปะรด” เฝ้าระวังปกป้องพระพุทธศาสนา
วันที่ 18 ก.ค.ที่ห้องประชุมวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมร่วมกับ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้แทนฝ่ายปกครองทุกระดับ พร้อมคณะสงฆ์จังหวัด เพื่อวางแนวทาง “บูรณาการเฝ้าระวัง-ปกป้องพุทธศาสนา” ท่ามกลางกระแสข่าวที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของพุทธศาสนิกชน
ในการนี้ พระราชวัชรสาครคณี ยังได้ส่งมอบเงินจำนวนกว่า 30,000 บาท ที่ได้รับจาก “ทิดทิ” หรือ นายทิวากร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ซึ่งได้ลาสิกขาเมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา ให้แก่พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เพื่อรอนำส่งคืนวัดใหญ่จอมปราสาท ใช้ในกิจของสงฆ์ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟ และรายจ่ายจำเป็นภายในวัด
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง โดยมีประเด็นสำคัญคือการร่วมมือกันระหว่างฝ่ายปกครองกับคณะสงฆ์ เพื่อรับมือกับกระแสข่าวและพฤติกรรมของบุคคลในวงการสงฆ์ที่อาจบ่อนทำลายศรัทธาของประชาชน พร้อมเน้นย้ำการตรวจสอบพฤติกรรมพระภิกษุและการบริหารจัดการวัดอย่างโปร่งใส เช่น การเปิดบัญชีวัด การเบิกถอนเงิน และการรายงานบัญชีตามระบบ Big Data
พระราชวัชรสาครคณี เปิดเผยถึงกรณีของอดีตพระมหาทิวากรว่า ได้รับบัญชีการเงินของวัดจากอดีตเจ้าอาวาสแล้ว พร้อมเปิดเผยว่ารูปแบบบัญชีที่ส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแตกต่างจากบัญชีที่นำมาแสดงแก่คณะสงฆ์ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป ทั้งนี้ ทิดทิยืนยันว่าไม่ได้กระทำการที่เข้าข่ายปาราชิก แต่ขอสึกเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ขณะเดียวกัน การตรวจสอบความประพฤติของพระและเจ้าอาวาสในจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับคำสั่งให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยให้เจ้าคณะตำบลรายงานไวยาวัจกรของแต่ละวัด และเร่งแต่งตั้งในวัดที่ยังไม่มี พร้อมชี้ว่ากรณีของมหาทิวากรเป็นบทเรียนสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต
ด้าน ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวเสริมว่า การประชุมครั้งนี้เน้นการขับเคลื่อนนโยบายมหาเถรสมาคม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย อาทิ การสร้างศูนย์ความร่วมมือพระ-บ้านเมือง, จัดทำระบบ QR Code สำหรับบริจาค, ยกระดับการบริหารทรัพย์สินวัด และให้ทุกฝ่ายเข้มงวดต่อการกระทำใด ๆ ที่อาจทำลายภาพลักษณ์พระพุทธศาสนา
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีเอกสารการเงินของวัดใหญ่จอมปราสาทที่หายไป ว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคาดว่าจะทราบผลในเร็ววันนี้
พระราชวัชรสาครคณี ได้ทิ้งท้ายถึงประชาชนและสื่อมวลชนว่า หากพบสิ่งผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทันที เพื่อร่วมกันปกป้องสถาบันสำคัญของชาติอย่างเข้มแข็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด “ทิดทิ” ได้ปรับเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวจากภาพขณะครองผ้าเหลือง เป็นตราสโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” สร้างสีสันหลังจากสึก โดยมีผู้ติดตามเข้าไปแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจจำนวนมาก