ททท.ปลื้ม TTM+ 2025 ดัน Carbon Neutral Event ขับเคลื่อนท่องเที่ยวยั่งยืน
การจัดงาน TTM+ 2025 ไม่เพียงมี ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว (Buyers) จำนวน 406 ราย จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มาร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยเท่านั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ยังได้นำเสนอธุรกิจโรงแรมที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Carbon Footprint Hotels (CF-Hotels) จัดทำสรุปรายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากกลุ่ม Buyers ว่าโรงแรมมีความโปร่งใส ไม่ส่งเสริมการฟอกเขียว (Green Washing) และมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ จำนวน 110 โรงแรมจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมด 450 รายแล้วอีกด้วย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. มุ่งมั่นให้ “ความยั่งยืน” เป็นแกนหลักของการจัดงาน TTM+ 2025 ระหว่างวันที่ 4 – 6 มิถุนายน 2568 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมา ตั้งแต่การส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในงาน
โดยจัดงานในรูปแบบ Carbon Neutral Event Self Declaration มีการวัดและชดเชยปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ภายในงาน จัดบริเวณสำหรับคัดแยกขยะ เพื่อนำไปรึไซเคิลและกำจัดอย่างถูกวิธีพร้อมส่งมอบความสุขร่วมแบ่งปันอาหารและสิ่งของที่ยังใช้ประโยชน์ได้แก่ชุมชนใกล้เคียง
การจัดงานในปีนี้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 669.84 kgco2eq เท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 47 ต้น และมีการคัดแยกขยะได้จำนวนรวม 1,080.63 กิโลกรัม ซึ่งการบริหารจัดการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของ ททท. ในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมในการบริหารจัดการคาร์บอนและการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์แต่คือหัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากล
อีกทั้งการจัดงาน TTM+ 2025 ททท. ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) จัดเก็บข้อมูลการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์และชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดจากการจัดงานทั้งหมดผ่านแพลตฟอร์ม Carbon Knox Declaration ผลปรากฏว่า สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 669.84 kgco2eq เท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 47 ต้น
นอกจากนี้ ภายในพื้นที่จัดงานอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ยังจัดบริเวณสำหรับคัดแยกขยะเพื่อให้เกิดการคัดแยกอย่างถูกวิธี ผลการคัดแยกขยะได้จำนวนขยะรวม 1,080.63 กิโลกรัม แบ่งออกเป็น ขยะทั่วไป 555 กิโลกรัม เศษอาหาร 425 กิโลกรัม และ รีไซเคิล 100.63 กิโลกรัม
รวมไปถึงททท.ยังร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร Central Tham และ Recycle Day ในการบริหารจัดการของเสียอย่างเป็นระบบ โดยมีการคัดแยกขยะ รีไซเคิล รวมถึงนำอาหารและสิ่งของที่ยังใช้ประโยชน์ได้ไปมอบให้ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อลดปัญหาเรื่องการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการฝังกลบขยะ
ไม่ว่าจะเป็น การนำขยะเศษอาหารและขยะอินทรีย์ส่งมอบให้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ, การนำขยะมูลฝอยทั่วไปส่งทำเชื้อเพลิง RDF (Refuse Derived Fuel) ทดแทนการใช้ถ่านหิน, การนำขยะพลาสติก PET ส่งมอบให้ GC YOUเทิร์น รวมถึงพลาสติกประเภทอื่น ๆ ให้แก่แหล่งรีไซเคิลต่อไป
ในส่วนของอาหารปรุงสำเร็จที่ยังไม่ได้นำมาเสิร์ฟได้มีการนำไปส่งมอบแบ่งปันความสุขให้แก่ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวัดดอนจั่น และ โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ โดยสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มจำนวน 300 ชุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนจัดการขยะและ Food Waste ของงาน
สำหรับของใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายใน TTM+ 2025 เมื่อการจัดงานเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการคัดแยกชิ้นส่วนของที่ใช้ในการจัดงานเพื่อนำไปบริจากหรือนำไปรีไซเคิลต่อ อาทิ การนำโต๊ะเจรจาธุรกิจไปส่งมอบให้แก่โรงเรียนเมตตาศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ
ทั้งนี้ ททท. มีภารกิจสำคัญในการใช้ “ความยั่งยืน” เป็นแกนกลางของการดำเนินงานในทุกกิจกรรมที่ ททท. ได้จัดขึ้น โดยปลูกฝังค่านิยมในการจัดงานที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
การจัดงาน TTM+ 2025 ในครั้งนี้เป็นเครื่องตอกย้ำว่า TTM+ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยวระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่ถ่ายทอดคุณค่าให้แก่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม
สะท้อนบทบาทของ ททท. ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวที่มุ่งยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทย และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,111 วันที่ 6 - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568