อินโดนีเซียเจรจาสำเร็จ บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว

เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียเรียบร้อย โดยอินโดนีเซียยอมไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เลย ขณะที่อินโดนีเซียต้องจ่ายภาษีส่งออกสินค้าของตนไปยังสหรัฐฯ ที่ร้อยละ 19 เพื่อลดยอดขาดดุลการค้ามหาศาลที่สหรัฐฯมีต่ออินโดนีเซีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียเมื่อวานนี้ (อังคาร) ซึ่งเป็นข้อตกลงล่าสุดที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศคู่ค้า และลดยอดขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล โดยทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯจะไม่จ่ายภาษีนำเข้าส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เราจะเข้าถึงอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าครั้งนี้ ขณะที่อินโดนีเซียจะจ่ายภาษีสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯที่ร้อยละ 19

ทรัมป์ระบุในโพสต์บน Truth Social ว่า "ข้อตกลงที่ดีสำหรับทุกคน เพิ่งทำกับอินโดนีเซีย เขาได้เจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีที่เคารพนับถือของพวกเขา เดี่ยวรายละเอียดจะตามมา!!!”

ทั้งนี้ ตัวเลขการค้าทั้งหมดของอินโดนีเซีย กับสหรัฐฯนั้น ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ไม่ได้อยู่ใน 15 อันดับแรก แต่ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ในปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าจากอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าเกือบ 18,000 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ ตามข้อมูลของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ที่รวบรวมได้จากเครื่องมือ TradeMap ของศูนย์การค้าระหว่างประเทศ เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ น้ำมันปาล์ม, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเราเตอร์และสวิตช์ข้อมูล, รองเท้า, ยางรถยนต์, ยางธรรมชาติ และกุ้งแช่แข็ง

ซูซิวิโจโน โมเอเกียร์โซ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย แจ้งกับรอยเตอร์ผ่านข้อความว่า "เรากำลังเตรียมแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐฯ และอินโดนีเซีย ซึ่งจะอธิบายขนาดของภาษีศุลกากรสำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงข้อตกลงด้านภาษีศุลกากร ข้อตกลงที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และข้อตกลงทางการค้า เราจะแจ้งให้สาธารณชนทราบในเร็ว ๆ นี้"

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ขู่อินโดนีเซียด้วยอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 32 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ในจดหมายที่ส่งถึงประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ส่งจดหมายลักษณะเดียวกันนี้ ไปยังคู่ค้าหลายสิบประเทศในเดือนนี้ ซึ่งรวมถึงแคนาดา, ญี่ปุ่น และบราซิล โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมตั้งแต่ร้อยละ 20 ถึง 50 รวมถึงภาษีนำเข้าทองแดงร้อยละ 50

ความก้าวหน้าครั้งสำคัญกับอินโดนีเซียเกิดขึ้น ในขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป เตรียมตั้งเป้าที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 72,000 ล้านยูโร (84,100 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่เครื่องบินโบอิ้ง, วิสกี้เบอร์เบิน ไปจนถึงรถยนต์ หากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯล้มเหลว

ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปร้อยละ 30 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ยุโรประบุว่าเป็นระดับที่ยอมรับไม่ได้และจะยุติการค้าปกติระหว่างสองตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง