อินโดนีเซียเผยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ หลังการเจรจาที่ไม่ธรรมดา

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินโดนีเซียเผย ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว หลังจากการเจรจาที่ต้องผ่าน 'การต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาและยากลำบาก' ส่งผลให้อัตราภาษีที่สหรัฐฯ เสนอต่อสินค้าส่งออกของอินโดนีเซียลดลงจากร้อยละ 32 เหลือ ร้อยละ 19

ฮาซาน นาสบี โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าววันนี้ว่า เป็นการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของทีมเจรจาของอินโดนีเซียที่นำโดยรัฐมนตรีประสานงานฝ่ายกิจการเศรษฐกิจ พร้อมกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย ได้เจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทางโทรศัพท์ด้วย แต่เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม โดยปราโบโวจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพุธหลังจากเขาเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว

ขณะที่ประธานาธิบดีปราโบโว โพสต์ข้อความผ่านทางบัญชีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มอินสตาแกรมของเขาว่า อินโดนีเซียและสหรัฐฯ ตกลงที่จะนำพาความสัมพันธ์ทางการค้าเข้าสู่ยุคใหม่ หลังจากที่เขากล่าวว่า ได้หารือทางโทรศัพท์ที่ยอดเยี่ยมมากกับทรัมป์ ซึ่งโฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซียเรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็น 'จุดนัดพบ' ระหว่างสองรัฐบาล และกล่าวว่าอัตราภาษีของอินโดนีเซียต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในวันอังคารว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับอินโดนีเซียแล้ว หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปราโบโวของอินโดนีเซีย และข้อตกลงนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉบับที่รัฐบาลทรัมป์สามารถตกลงได้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายการเจรจาวันที่ 1 สิงหาคม

ทรัมป์กล่าวด้วยว่า อินโดนีเซีย ให้คำมั่นที่จะซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 50 ลำ ซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์เกษตรจากสหรัฐฯมูลค่า 4,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ทรัมป์บรรลุข้อตกลงกับอินโดนีเซียในลักษณะที่คล้ายคลึงกับข้อตกลงเบื้องต้นที่ทำกับเวียดนามเมื่อเร็วๆ นี้ โดยไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ที่ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังรวมถึงอัตราภาษีค่าปรับสำหรับการขนส่งสินค้าจากจีนผ่านอินโดนีเซียด้วย

ดัชนีหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวขึ้นสูงสุดร้อยละ 0.7 ในวันนี้หลังจากบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าจะให้แรงกระตุ้นเชิงบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สินค้าส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมันของอินโดนีเซีย เช่น รองเท้าและสิ่งทอ จะได้รับผลกระทบ แต่พลังงานและการเกษตรมีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์ ส่วนนักเศรษฐศาสตร์จากเมย์แบงค์ อินโดนีเซีย (Maybank Indonesia) เห็นว่าข้อตกลงนี้ค่อนข้างดี เนื่องจากอินโดนีเซียได้อัตราภาษีที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายอื่นๆ อย่างไรก็ดี ชาวอินโดนีเซียทั่วไปบางส่วนมองว่า เป็นข้อตกลงที่แย่และไม่เป็นธรรมเลยสักนิด เพราะอินโดนีเซียจะเสียเปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง