รัสเซียเดินหน้าไม่สนคำขู่ ‘ทรัมป์’ และชาติตะวันตก ลั่น!! บุกถล่มต่อจนกว่ายูเครนจะยอมรับเงื่อนไข
(16 ก.ค. 68) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดทำเนียบเครมลินว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะเดินหน้าปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (SMO) ในยูเครนต่อไป จนกว่าชาติตะวันตกและยูเครนจะยอมเจรจาบนเงื่อนไขของรัสเซีย ซึ่งเคยเสนอไว้ตั้งแต่ต้นปี 2022 ที่อิสตันบูล โดยรวมถึงการยอมรับดินแดนที่รัสเซียยึดครอง และการรับประกันว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วม NATO
รายงานระบุว่า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรและตั้งเส้นตาย 50 วันให้ปูตินเจรจาสันติภาพ แต่ผู้นำรัสเซียกลับไม่ได้แสดงท่าทีหวั่นไหว หรือมีแนวโน้มยอมถอย โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า “ปูตินจะไม่หยุดเพียงเพราะถูกกดดันจากตะวันตก” และเชื่อว่ารัสเซียสามารถรับมือกับมาตรการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้
แหล่งข่าวอีกคนเสริมว่า ปูตินมองตะวันตกยังไม่เคยยื่นข้อเสนอเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง แม้จะมีการพูดคุยกับทรัมป์หลายครั้ง และส่งทูตพิเศษเข้ารัสเซีย เช่น สตีฟ วิตคอฟฟ์ (Steven Witkoff) โดยชี้ว่า “แม้ปูตินจะให้คุณค่ากับการพูดคุยกับทรัมป์ แต่ผลประโยชน์ของรัสเซียมาก่อนเสมอ”
ขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงรุกคืบในสนามรบ โดยควบคุมพื้นที่กว่า 20% ของยูเครน และมีขีดความสามารถในการผลิตอาวุธหลัก เช่น กระสุนปืนใหญ่ สูงกว่าชาติ NATO หลายประเทศ รวมถึงมีแผนขยายพื้นที่ยึดครองเพิ่มเติม โดยเฉพาะในภูมิภาค ดนีโปรเปตรอฟสค์, ซูมี และ คาร์คิฟ
แม้ทรัมป์จะยังเปิดช่องว่าสำหรับการเจรจาสันติภาพ แต่หลายฝ่ายกังวลว่า ความขัดแย้งอาจยืดเยื้อและลุกลาม ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ของโลก ขณะที่เศรษฐกิจรัสเซีย แม้เผชิญมาตรการคว่ำบาตร ยังเติบโตเกินคาด โดยรัฐบาลรัสเซียประเมินว่า GDP จะขยายตัว 2.5% ในปี 2025