“ทักษิณ” ลั่น “ความไม่สามัคคี-อิจฉาริษยา” คืออุปสรรคใหญ่ของชาติ
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญในงาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้หัวข้อ “Crafting the Future: From OTOP to ThaiWORKS and Beyond” พร้อมเปิดตัวโครงการ “ThaiWORKS” ซึ่งมีเป้าหมายต่อยอดโครงการ OTOP โดยเน้นการยกระดับสินค้าท้องถิ่นด้วยการออกแบบสมัยใหม่และการสร้างแบรนด์สู่ตลาดโลก
ในโอกาสนี้ นายทักษิณได้เปิดเผยว่า ThaiWORKS จะได้รับความร่วมมือจาก Mr. Peter Arnell ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ระดับโลก ซึ่งเคยทำงานร่วมกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung เพื่อพัฒนาแนวทางการต่อยอดผลิตภัณฑ์ไทยในระดับสากล ทั้งในมิติการออกแบบ การสร้างแบรนด์ และการตลาด โดยมีเป้าหมายให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืน
“อยากให้หมู่บ้านคือโรงงาน ศิลปะคือจุดแข็ง และความคิดสร้างสรรค์คือพลัง”
นายทักษิณชี้ว่า โครงการนี้จะผลักดันให้ ทุกหมู่บ้านเป็นเหมือนโรงงานขนาดย่อม โดยผลิตภัณฑ์จะได้รับการออกแบบจากส่วนกลาง ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก ทั้งยังมุ่งให้เยาวชน โดยเฉพาะ Generation Z มีช่องทางหารายได้จากสินค้าชุมชนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในระดับฐานราก
อดีตนายกฯ ยังระบุว่า การพัฒนา ThaiWORKS จะไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหรืออำนาจรัฐ แต่จะขับเคลื่อนด้วยกลไกสังคมในรูปแบบ Social Enterprise ที่ตนสนับสนุนด้วยเงินทุนส่วนตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน ไม่ผูกติดการเมือง พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่น เข้ามามีบทบาทร่วมผลักดันนโยบายนี้อย่างจริงจัง
ฟื้นฟูวงการหนังไทย-ขับเคลื่อน Soft Power อย่างเป็นระบบ
นายทักษิณยังได้แสดงความเห็นต่อวงการภาพยนตร์ไทยว่า ปัจจุบันมีพัฒนาการที่ชัดเจน มีระบบการผลิตที่ดีขึ้น กลุ่มเป้าหมายชัดเจน และมีศักยภาพขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตอนนี้คนใน Hollywood เริ่มซื้อสคริปต์หนังไทยไปแปลแล้ว เพราะคนไทยเขียนนิยายเก่ง โดยเฉพาะการเมืองนิยายน้ำเน่าเยอะ จึงเรียกร้องให้ภาครัฐและสถาบันการเงินให้การสนับสนุนอย่างเป็นระบบ และย้ำว่าการส่งเสริม Soft Power ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “ความสามัคคีและไม่อิจฉาริษยา”
“ความไม่สามัคคี-อิจฉาริษยา” อุปสรรคใหญ่ของชาติ
นายทักษิณปิดท้ายด้วยการเน้นว่า ปัญหาสำคัญของประเทศไทยคือ “ความไม่สามัคคีและความอิจฉาริษยา” หากประชาชนร่วมมือกัน ส่งเสริมกันโดยไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก Soft Power ไทยจะสามารถเติบโตในหลายมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรม สินค้าหัตถกรรม ภาพยนตร์ ดนตรี และอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้จากความคิดสร้างสรรค์ในยุคเศรษฐกิจใหม่