เปิดเบื้องลึกล้างน้ำเงิน "ภูมิธรรม" จัดทัพใหม่คุมเบ็ดเสร็จ
“บิ๊กอ้วน”ภูมิธรรม เวชยชัย เข้าคลองหลอด วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นั่ง “มท.1”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหลังจากพิธีการเรียบร้อย กราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของกระทรวง โดยเฉพาะองค์ปฐมเสนาบดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระองค์พระราชทานคำขวัญและหลักการสำคัญในการทำงานของบรรดาข้าราชการทุกระดับของมหาดไทยไว้ว่า "บำบัดทุกข์บำรุงสุข" ซึ่งสะท้อนถึงภารกิจหลักในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนในทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ
นโยบายแรกจริงจังดุดันของ บิ๊กอ้วน คือ การปราบปรามยาเสพติดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ประกาศลั่น “ชาวบ้านเขารู้หมดว่ามียาขายที่ไหน แต่ทำไมผู้การฯจังหวัด ผู้ว่าฯจังหวัด ถึงไม่รู้”แล้วชัดเจน “ไม่มีสิงห์ไหนในมหาดไทย นอกจากสิงห์มหาดไทย”หลังให้นโยบายก็ยังเรียกอธิบดีทั้ง 6 กรมในมหาดไทยคุยส่วนตัวอีก
หลายคนสงสัยว่าแล้วเหตุไฉนวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568 เด้ง 2 อธิบดีสายสีน้ำเงินเข้ากรุเป็นผู้ตรวจราชการ เชื่อว่าอธิบดีทั้งสองรู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรให้ บิ๊กอ้วน หงุดหงิด พรายกระซิบมาว่า บุคคลิกของบิ๊กอ้วน ไม่ได้เป็นคนใจไม้ใส้ระกำแต่อย่างใด แต่ที่ต้องทำด่วน เพราะมีสายรายงานว่าทั้งสองอธิบดี คือ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นที่รู้กันว่า เด็กบุรีรัมย์ สายตรง “เนวิน ชิดชอบ” ซึ่งจะเกษียณอายุราชการกันยายนปี 2568 ยังไม่ยอมหยุดโยกงบประมาณลงพื้นที่สีน้ำเงิน เป็นเงินที่จังหวัดเหลือจ่ายส่งคืนให้กรมการปกครอง หลายพันล้านบาท ถึงกับโยกเสมียนตราบุรีรัมย์ เข้ามาเป็นผู้อำนวยการคลัง กรมการปกครอง เพื่องานนี้โดยเฉพาะ เพราะคนที่ถูกย้าย ไม่ยอมทำให้
เช่นเดียวกับ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ถูกโยกออกจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เจ้าตัวจะเกษียณฯในปี 2570 คนนี้ก็เช่นเดียวกันสายสีน้ำเงิน โยกมาจากผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ทั้งที่หัวเปลี่ยนแล้ว ยังจัดงบประมาณ ลงพื้นที่คนของสีน้ำเงิน
นี่เป็นเหตุผลที่ทำ “บิ๊กอ้วน” ไม่ปล่อย ฟันทันที เพราะเห็นว่าถ้าปล่อยไว้ เดี๋ยวจะเกิดความเสียหายต่อใคร คิดเอาเอง
แล้วการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (5 สิงหาคม 2568 )ก็เช่นเดียวกัน บิ๊กอ้วน ชงครม.เด้งอีก 2 อธิบดี คือ นายพรพจน์ เพ็ญพาส ลูกชายพร เพ็ญพาส อดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด ก่อนมาเป็นอธิบดีที่ดิน เคยนั่งอธิบดีกรมโยธาธิการ ตามสายที่ตัวเองจบจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จะเกษียณปี 2569 นั่งอธิบดีที่ดิน สมัยเสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” มีเรื่องที่ดิน “เขากระโดง” แต่งื้อง่าไม่ทำอะไร ยื้อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเปลี่ยน มท.1 ก็ไม่รอด ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯถึงการละเว้นปฎิบัติหน้าที่ แต่มีระดับผู้ใหญ่ของมหาดไทย ช่วยต่อรองไม่ต้องเข้ากรุ จึงถูกโยกเป็นรองปลัดกระทรวง แล้วให้ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี นับเป็นสิงห์แดง คนแรก ที่ได้นั่งเป็นอธิบดีในยุค บิ๊กอ้วน ซึ่งเจ้าตัวเกษียณปี 2569 ถึงกับโอดกับคนใกล้ชิด “ผมรู้ว่าได้มาเพราะไม่มีใครจะทำเรื่องยากๆๆๆ โอเคให้ผมทำก็ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
มาถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายภาสกร บุญญลักษม์ เสี่ยหนู โยกมาจากผู้ว่าฯปทุมธานี ทำงานสำคัญหลายอย่างให้เสี่ยหนู สำเร็จ จึงได้บรรณาการนั่งอธิบดี และเป็นเด็กของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตปลัดมหาดไทย และรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แม้นายเสริมศักดิ์ จะช่วยประสานสิบทิศให้ยังเกาะเก้าอี้ให้ได้ แต่ต้านไม่ไหว เพราะมีการร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างใหญ่ของ ปภ. โดยล๊อคสเปคให้กับบางบริษัท ที่สุดทำได้แค่โยกออกไปเป็นผู้ว่าฯระยอง เจ้าตัวจะเกษียณราชการปี 2571
ทั้งหมดทั้งมวล เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว เป็นข้าราชการ สิ่งสำคัญบอกว่าต้องทำงานให้ประชาชนชาวบ้าน ต้อง “บำบัดทุกข์ และบำรุงสุข” แต่บนพื้นฐานความเป็นจริง ข้าราชการที่ไม่มีหัว ไม่มีใครดูแล มักจะเติบโตไปตามมีตามเกิด แต่ถ้าเป็นเด็กนาย เมื่อนายเปลี่ยน ถ้ารู้จักที่จะเปลี่ยนไปตามนาย จะอยู่ได้ดี เรื่องนี้ต้องดูยาวๆๆๆ วันนี้ยังไม่โยกย้ายหรือแต่งตั้งผู้ว่าฯทดแทนคนเกษียณ รอลุ้นครม.ครั้งหน้า