4 ส.ค. ร้อนสุดๆ 'ดร.เสรี' ชี้ชะตาโลกแขวนบนเส้นด้าย หมดแรงก่อนบรรลุ SDGs 2030
วันที่ 4 สิงหาคม 2568 "รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์" ผู้อำนวยการศูนย์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคใต้ตอนล่าง โดยระบุว่าวันนี้ถือเป็นวันที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดของสัปดาห์ และยังไม่มีลมช่วยระบายความร้อน ส่งผลให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
พร้อมกันนี้ "รศ.ดร.เสรี" ยังกล่าวถึงสถานการณ์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals 2030 ว่า ขณะนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างรุนแรง จากรายงานประจำปี 2024 ของสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่า จากทั้งหมด 17 เป้าหมาย มีความคืบหน้าเพียง 17% เท่านั้น และยังมีถึง 4 เป้าหมายที่ไม่มีความคืบหน้า ได้แก่
- การขจัดความยากจน (SDG 1)
- การจัดหาน้ำสะอาดและสุขาภิบาล (SDG 6)
- การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG 13)
- การสร้างสันติภาพ ความยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (SDG 16)
“เวลาที่เหลือในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDGs 2030 มีไม่ถึง 5 ปี ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของทั้งโลกและประเทศไทย”
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) "รศ.ดร.เสรี" ได้เน้นย้ำถึง เป้าหมายที่ 13 ว่าเป็นหัวใจสำคัญ โดยตัวเลขล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- CO₂ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.8–1.5% ต่อปี
- GHG รวม เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.1–1.4% ต่อปี
ขณะที่ IPCC ประเมินว่า หากต้องการบรรลุเป้าหมาย Net-Zero ในปี 2050 โลกจะต้องลดการปล่อย GHG ลงอย่างน้อย 42% ภายในปี 2030 หรือเฉลี่ยปีละ 8–9%
"รศ.ดร.เสรี" ระบุเพิ่มเติมว่า การปรับตัวขององค์กรและประเทศไปสู่ Climate Resilience หรือ “ภูมิต้านทานต่อสภาพภูมิอากาศ” ต้องเผชิญกับข้อกำหนดและเงื่อนไขสำคัญหลายประการ เช่น
- กลไกการเก็บภาษีคาร์บอน (CBAM, CO₂ Tax)
- พระราชบัญญัติ Climate Change
- มาตรฐานใหม่ด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน (Sustainability Disclosure)
- การปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น SDG2030, Net-Zero และความตกลงปารีส (Paris Agreement)
ทั้งนี้ สภาพภูมิอากาศโลกกำลังเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ “รวดเร็ว รุนแรง และแพร่หลาย” โดยโลกในปัจจุบันกำลังอยู่ในฉากทัศน์ “We Live” ซึ่งหมายถึงการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยไม่ให้เกิน 1.5°C และคาดว่าจะเข้าสู่ฉากทัศน์ “We Stay” ที่มีอุณหภูมิสูงไม่เกิน 2°C ภายในปี 2058
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โลกอาจเข้าสู่ฉากทัศน์ “We Fail” ในปี 2060 ซึ่งอุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นเกิน 2.6°C ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมในระดับรุนแรง
“วาระโลก วาระประเทศไทย และวาระท้องถิ่นควรได้รับการบูรณาการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น และเพื่อความอยู่รอดของคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อไป” รศ.ดร.เสรี กล่าวทิ้งท้าย