สาเหตุ "สุริยะ" นั่งรักษาการนายกฯแทน "แพทองธาร" ไม่ใช่ "ภูมิธรรม"
ร้อนแรงขึ้นมาทันทีสำหรับแวดวงการเมือง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ส่งผลให้ต้องมีผู้มารักษาการแทนชั่วคราว ซึ่งผู้ที่ได้รับหน้าที่สำคัญนี้คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
คำถามที่เกิดขึ้นในสังคมคือ เหตุใดจึงไม่ใช่นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะได้ทำหน้าที่นี้? คำตอบอยู่ที่การปรับตำแหน่งใน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ซึ่งเพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ และมีการโยกย้ายตำแหน่งหลายตำแหน่งสำคัญ
โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายเดชอิศม์ ขาวทอง พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทั้ง 4 รายนี้ รวมถึงนายภูมิธรรม ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ได้ จนกว่าจะผ่านขั้นตอน เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ซึ่งหมายความว่าทันทีที่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง แม้เพียงตำแหน่งเดียว ก็ถือว่าต้องพ้นจากตำแหน่งเดิมทั้งหมด และยังไม่สามารถใช้อำนาจในตำแหน่งใหม่ได้
สถานการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นกรณีพิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ ครม.ชุดใหม่กำลังรอเข้าเฝ้าถวายสัตย์ แต่ นายกรัฐมนตรีกลับถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ต้องเร่งเตรียมแผนสำรอง
ตามแผนดังกล่าว บุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอย่างสมบูรณ์ และไม่อยู่ในกลุ่มผู้ถูกเปลี่ยนตำแหน่ง จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ ได้ทันที พร้อมอำนาจเต็มในการสั่งการต่างๆ นำเรื่องเข้าสู่การประชุม ครม. แต่งตั้งบุคลากร และบริหารงบประมาณ
คำตอบชัดเจนอยู่ที่ สถานะของตำแหน่งรัฐมนตรีตามประกาศโปรดเกล้าฯ เนื่องจากนายภูมิธรรมถูกเปลี่ยนตำแหน่ง และยังไม่ผ่านขั้นตอนถวายสัตย์ จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ได้ในขณะนี้ ในขณะที่นายสุริยะยังมีตำแหน่งเดิมที่สมบูรณ์ ทำให้สามารถเข้ารักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบราชการ
โดยในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ คาดว่า นายสุริยะ จะเป็นผู้นำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นภารกิจของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด