เด็กชายป.2 ตัวติดคาเครื่องเล่นไวกิ้งสนามเด็กเล่นของโรงเรียนด้านครู-กู้ภัยเร่งช่วยออกมาปลอดภัย

เด็กชาย ป.2 วิ่งเล่นสนามเด็กเล่นช่วงพักเที่ยงในโรงเรียน อำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เกิดพลาดตัวติดคาในเครื่องเล่นไวกิ้ง ครูและกู้ภัยฯ เร่งช่วยเหลือ ใช้เครื่องตัดถ่างนำตัวออกจากเครื่องเล่นได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางเสียงปรบมือด้วยความดีใจของเด็ก นร.ที่มาให้กำลังใจและรอลุ้นขณะช่วยเหลือ

วันที่ 21 ก.ค.2568 หน่วยกู้ภัยบ้านสองเมืองได้รับแจ้งจากครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเด็กนักเรียนติดอยู่กับเครื่องเล่นภายในโรงเรียน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเครื่องตัดถ่างและอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน เมื่อไปถึงพบเด็กชายมงคล นักเรียนชั้น ป.2 ตัวติดคาอยู่กับเครื่องเล่นไวกิ้งบริเวณสนามเด็กเล่น ภายในโรงเรียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พยายามใช้หินเจียรๆ เหล็กบริเวณเด็กติดอยู่ แต่ไม่ได้ผล จึงได้ใช้เครื่องตัดถ่างตัดเหล็กด้วยความระมัดระวัง โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาที ก็สามารถนำตัวเด็กออกมาจากเครื่องเล่นได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีรอยขีดข่วนหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด ท่ามกลางเสียงปรบมือด้วยความดีใจ ของเด็กนักเรียนที่มาคอยให้กำลังใจและรอลุ้นการช่วยเหลือของครู และหน่วยกู้ภัยฯ

จากการสอบถามนายธนภัทร ศรีรักษ์ อาสากู้ภัย เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากหัวหน้าหน่วยให้รีบนำเครื่องตัดถ่างไปช่วยเด็กที่ติดอยู่กับเครื่องเล่น เมื่อไปถึงพบว่าเด็กติดอยู่กับคานเหล็กของเครื่องเล่นไวกิ้ง ลักษณะเป็นที่นั่งซึ่งพาดอยู่บริเวณท้อง เด็กไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จากนั้นทีมกู้ภัยจึงตัดสินใจใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถนำตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยเด็กไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ด้านนางกัญญาณัฐ ยึนประโคน หัวหน้างานวิชาการ ของโรงเรียน เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนที่ติดอยู่กับเครื่องเล่น เป็นนักเรียนชั้น ป.2 ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงพักกลางวัน โดยน้องได้เข้าไปเล่นกับเพื่อน ๆ ตามประสาเด็ก ก่อนพยายามลอดเข้าไปในช่องนั่งของเครื่องเล่นไวกิ้ง ซึ่งเพื่อนคนอื่นที่ตัวเล็กสามารถผ่านได้ แต่น้องมงคล ตัวโตกว่าคนอื่น จึงติดอยู่ที่คานเหล็ก และไม่สามารถขยับตัวออกมาได้ หลังจากเพื่อน ๆ พบว่าน้องติดในเครื่องเล่น จึงรีบแจ้งครูและภารโรง ก่อนจะประสานไปยังหน่วยกู้ภัยฯ โดยในตอนแรกพยายามใช้หินเจียรตัดเหล็ก แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากเหล็กมีความหนาและแข็งแรง จึงเปลี่ยนมาใช้เครื่องตัดถ่าง จึงสามารถนำตัวเด็กออกได้โดยไม่มีอันตราย โดยมี ผอ.และครูประจำชั้นคอยปลอบใจ

ทั้งนี้โดยปกติโรงเรียนได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักเรียนเป็นอันดับหนึ่ง มีการจัดอบรม ซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง แต่เกิดการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุและเกิดในช่วงพักกลางวัน

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งการให้นำเครื่องเล่นไวกิ้งดังกล่าวออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก แต่เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับเด็ก ครู และผู้ปกครองด้วย