หนุ่มใหญ่ขับเก๋งลงเขาหลุดโค้งจากฝนตกถนนลื่นเหินข้ามเลนใส่กระบะ 2 คันขับสวนทางมาพังยับเจ็บสาหัสติดคาซาก
วันที่ 21 ก.ค. 68 เวลา 20.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เกิดอุบัติเหตุ บนถนนสาย 317 จันทบุรี - สระแก้ว ขาออกเมือง ช่วงทางขึ้นเขาเกลือ พื้นที่หมู่ 6 บ้านมาบคล้า
ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีวีออส สีดำ ทะเบียน กท 3621 สระแก้ว เสียหลักพลิกคว่ำอยู่ในป่าข้างทาง สภาพพังตัวถังฝั่งซ้ายทั้งแถบ มีร่องรอยถูกชนอย่างแรงพังยับ ส่วนในห้องผู้โดยสารมีร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาย 1 ราย เป็นคนขับถูกแรงอัดร่างติดอยู่บนที่นั่ง มีอาการบาดเจ็บสาหัส ทางกู้ภัยฯได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีชีพจรเต้นอ่อน จึงรีบใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง งัดซากรถนำร่างคนเจ็บออกมา และช่วยทำ CPR ฟื้นคืนชีพ พร้อมประสาน ทีมแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลโป่งน้ำร้อนมารับตัว
หลังเกิดเหตุ ด้าน ร.ต.อ.วัลลภ พูลผล รองสว.สส.(สอบสวน) สภ.โป่งน้ำร้อน เดินทางตรวจสอบ พบยังมีรถยนต์กระบะคู่กรณีอีก 2 คัน โดยคันแรกเป็นรถกระบะ สีดำ ทะเบียน บร 4740 ศรีษระเกษ จอดอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้ามีร่องรอยถูกชนพังยับเยินไปถึงห้องผู้โดยสาร โดยมี นายสิทธิชัย สิงห์โท อายุ 51 ปี ชาว จ.สุรินท์ คนขับ ยืนอุ้มสุนัข ให้ปากคำกับตำรวจ โดยมีภรรยาที่นั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บ ทางอาสากู้ภัยฯ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว ห่างออกไปประมาณ50 เมตร พบมีรถยนต์คู่กรณีอีก 1 คัน เป็นรถกระบะ สีบรอนด์ ทะเบียน บย 3661 นครศรีธรรมราช เสียหลักจอดอยู่ข้างทาง มีร่องรอยถูกชน ที่กันชนหน้าฝั่งซ้าย พังเสียหาย แม็กแตกยางระเบิด โดยมี สองสามีภรรยาและน้องชาย ยืนรอให้ปากคำกับตำรวจในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน ทราบชื่อคนขับรถเก๋งต่อมาคือ นายสิงห์หนุ่ม อายุ 43 ปี ชาว อ.โป่งน้ำร้อน โดยทาง นายสิทธิชัย คนขับกระบะคู่กรณี เล่าเหตุการณ์การว่า ตนเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุได้พร้อมกับภรรยาและสุนัขอรีก 3 ตัวขับรถมาจาก อ.ขลุง มุ่งหน้ากลับบ้านที่ จ.สุรินท์ โดยขับมาด้วยความเร็วปกติ เนื่องจากฝนตกถนนค่อนข้างเปียกลื่น โดยขับตามหลังรถยนต์กระบะ ที่ถูกชนด้วยอีกคัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆได้มีรถยนต์เก๋งคู่กรณี คาดว่าจะหลุดโค้งเหินข้ามเกาะกลางไปชนกับกระบะ คันหน้าก่อน จากนั้นได้ลอยขึ้นมาชนอัดกับรถของตนเองอย่างแรง ก่อนจะพลิกคว่ำตกลงไปในป่าข้างทาง ทำให้ภรรยาที่นั่งมาด้วยกันได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ เบื้องต้นได้ตรวจสอบ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ได้เชิญตัวคนขับรถคู่กรณีและพยานแวดล้อม มาให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อให้การสรุปสำนวนคดี เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายต่อไป