AOT แจง “คิง เพาเวอร์” ขอเลื่อนชำระเงิน ยันมีหลักประกัน-พร้อมจ่ายดอกเบี้ย
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT (ทอท.) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ชี้แจงเพิ่มเติมกรณี ทอท.อนุมัติให้บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงิน ของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง
ตามที่บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ได้มีหนังสือถึง AOT เพื่อขอหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ KPD ยังคงสามารถประกอบกิจการตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร จำนวน 3 สัญญา ได้แก่
(1) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) (2) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และ (3) สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ต่อไปได้หรือข้อยุติอื่น ๆ รวมถึงแนวทางในการพิจารณาหากจะมีการขอยกเลิกสัญญาฯ โดยในระหว่างการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุตินั้น KPD ขอชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนของสัญญาฯ ดังกล่าวทั้ง 3 สัญญา เฉพาะอัตราร้อยละ 20 ของยอดจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในแต่ละเดือน
ทอท. พิจารณาตามหนังสือของ KPD แล้ว ยืนยันเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไขสัญญาที่ KPD มีกับ ทอท. ในระหว่างรอผลการศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และหาก KPD มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง (โครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินฯ)ให้ KPD พิจารณาดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของโครงการดังกล่าวต่อไป
ต่อมา KPD ได้มีหนังสือลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เพื่อขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินฯ โดยในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 9/2568 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมมีมติรับทราบมติคณะกรรมการพิจารณารายได้ของ ทอท. ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ซึ่งอนุมัติให้ KPD เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินฯ ทั้ง 3 สัญญาข้างต้น โดยให้ KPD สามารถแบ่งชำระส่วนต่างดังกล่าวและเลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำเพียงบางส่วนออกไปอีกงวดละ 8 เดือน สำหรับงวดดังต่อไปนี้
1.เดือนมิถุนายน - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ทสภ. (ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน 2568 ให้เลื่อนออกไป 6 เดือน)
2.เดือนกันยายน - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ทดม.
3.เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ทภก. ทชม. และ ทหญ.
โดย KPD ต้องชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 8.8440 ต่อปีซึ่งเป็นไปตามมาตรการก่อนหน้า (MLR+2)ของค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างชำระในแต่ละงวดให้แก่ ทอท.ทุกเดือน
ในการนี้ จากการตรวจสอบหลักประกันสัญญาที่ KPD มอบไว้ให้กับ ทอท.พบว่ายังครอบคลุมค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ KPD ขอเลื่อนชำระรวมกับค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด รวมทั้งเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติมให้กับ ทอท.
ทั้งนี้ ทอท.กำหนดให้KPD ต้องนำหลักประกันมาวางให้กับ ทอท.เพิ่มเติม หากเกิดกรณีที่ KPD ชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนล่าช้าจากที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่ง KPD ยืนยันจะชำระเงินตามที่ ทอท.เรียกเก็บตามสัญญาบางส่วน พร้อมชำระดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระล่าช้าตามโครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินฯ ระหว่างรอผลการศึกษาของ ทอท.