ร่างคอมเพล็กซ์ไม่เป็นหมัน!
“สว.”เดินหน้ายื่น “ปปช.-ศาลรธน.” พิจารณาจริยธรรมร้ายแรง “นายกฯอิ๊งค์” เซ่นปมคลิปเสียงคุย “‘ฮุน เซน” ลั่นเปิดสมัยประชุม พร้อมอภิปราย “นายกฯ ทันที ด้าน “ภูมิธรรม” รับไม่ห่วง “ศาลรธน.” รับวินิจฉัยคลิปเสียง เมิน “ภท.” จ่อยื่นซักฟอก “จุลพันธ์” ยันร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เป็นหมัน แค่เลื่อนออกไป ยันเสียงรัฐบาลมากพอ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.68 ที่รัฐสภา นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของวุฒิสภา ว่า ในการประชุมวิปวุฒิสภาที่ผ่านมามีการดำเนินการเพื่อยื่นไปแล้ว อยู่ที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะดำเนินการให้เราเมื่อไหร่ โดยในช่วงที่ยังไม่มีการเปิดสมัยประชุมสภา เราจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ในการเรียกเข้ามาให้ข้อมูล
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกาศจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ทาง สว.จะมีการดำเนินการก่อนหรือหลัง นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ในส่วน สส.ก็คงมีกระบวนการของเขา สำหรับ สว.เรามีมติเอกฉันท์ว่าจะยื่น และระหว่างที่รอรัฐบาลตอบรับ จะใช้กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เรียกมา เพราะทุกคนมีความเป็นห่วงชาติบ้านเมือง เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลปรากฏว่าสถานการณ์ในขณะนี้เป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ยังคงไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ต่อหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า กระบวนการทางฝั่ง สส.ก็มี ในส่วนของ สว.เราก็ยื่นไปแล้ว ซึ่งเมื่อเราเห็นว่า อะไรที่เรามีส่วนเกี่ยวข้อง และสามารถดำเนินการได้ เราก็จะดำเนินการ
เมื่อถามถึง กรณีที่นายกรัฐมนตรีออกมาขออภัยแล้ว มองว่าจบหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า กระบวนการต่างๆ ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว ซึ่งก็เป็นดุลพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราไม่ก้าวล่วง เราก็ทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์แล้ว
เมื่อถามว่า จะมีการไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า สว.เข้ายื่นไปยื่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็อยู่ที่องค์กรอิสระ จะเป็นคนใช้ดุลพินิจพิจารณาว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็เคารพคำวินิจฉัยของทั้งสองหน่อยงาน ส่วนเรื่องการเข้าชื่ออภิปรายมาตรา 153 นั้น เรามีการดำเนินการแล้วเช่นกัน
เมื่อถามว่า ทางศาลได้มีการขอข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า คนที่รับผิดชอบมีอยู่ 2 คน คือ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. และพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ซึ่งยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
เมื่อถามต่อว่า ข้อมูลที่มีถือว่าเพียงพอและเข้าข่ายความผิดหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เราจะพยายามรวบรวมให้ครบตามที่เรามีเอกสารและหลักฐาน ส่วนหาก ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ ต้องการข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติม ก็สามารถประสานมาได้ และเราจะจัดส่งข้อมูลจามที่เราคิดว่าเรายังขาดอะไรอยู่
เมื่อถามย้ำว่า การยื่นเรื่องไปคือเรื่องการผิดจริยธรรมร้ายแรงใช่หรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เป็นไปตามนั้น ตามที่สื่อมวลชนทราบ
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันในวิปหรือไม่ว่า เมื่อเปิดสมัยประชุม หากรัฐบาลประสานมา เราจะมีความพร้อมเมื่อไร นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมไป เราพร้อมเลย ขณะนี้รอเพียงรัฐบาลประสานมาเท่านั้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งปัจจุบันการตรวจสอบคุณสมบัติค่อนข้างละเอียด จากเดิมไม่กี่วันก็เสร็จ แต่ครั้งนี้ 10 กว่าวัน เพราะต้องเพิ่มการตรวจสอบด้านต่างๆ ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในคุณสมบัติก็ถูกเรียกไปหมด เผื่อมีปัญหาจะได้ไม่ช้า สามารถหยิบคนที่มีศักยภาพขึ้นมาได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นคุณสมบัติครั้งนี้ มีการให้บุคคลสำรองยื่นไปด้วย เพราะไม่มั่นใจในเรื่องสมบัติของผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ เราต้องการทำให้ขั้นตอนต่างๆ ช้า ซึ่งมีอยู่ในมือทั้งหมด เราไม่รู้ว่าการตีความเรื่องจริยธรรมจะเป็นอย่างไร เพราะมันกว้าง
เมื่อถามว่า อย่างกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีคดีร้องเรียนอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงไม่มั่นใจใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย
เมื่อถามว่า ขณะนี้ในพรรคเพื่อไทยโควตาลงตัวหรือยัง เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสว่า สส.ไม่พอใจโผที่ออกมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเลย เพราะข่าวที่เช็คไปเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่ บางทีแหล่งข่าวก็ไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริง หรือเฉพาะบางคน
เมื่อถามว่า หมายความว่าสัปดาห์นี้จะลงตัวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯ ได้ประมาณไว้อย่างนั้น เพราะมีการดูรายละเอียดมากพอสมควรแล้ว เมื่อถามว่า จะมีการทูลเกล้าฯ ก่อนวันที่ 1 ก.ค.หรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญอาจรับวินิจฉัยกรณีคลิปเสียงของนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับคดีอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการ จบเมื่อไหร่ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อนั้น
เมื่อถามยํ้าว่า หากศาลรับวินิจฉัยก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ จะทำอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีกระบวนการอยู่แล้ว ต้องดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายภูมิธรรมต้องรักษาราชการแทนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีคำว่าถ้า
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคภูมิใจไทย ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 3 ก.ค. นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาก็มีสิทธิ์ตามข้อบังคับของสภา ถ้าสภาบอกเขามีสิทธิ์ก็สามารถเสนอได้ แต่เสียงก็ต้องเพียงพอ ก็แล้วแต่ เพาะเป็นอำนาจของสภา
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะเคยร่วมงานกันมา อาจจะมีข้อมูลในสมัยที่เป็นรัฐบาล นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า ข้อมูลเขาทำ หรือใครทำ เขาจะไปรู้ของคนอื่นได้อย่างไร เขาก็คงรู้เรื่องที่เขาทำว่ามีอะไรดี แต่เรื่องของคนอื่นเขาจะไปรู้อะไร เราทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะฉะนั้น เรามั่นใจในตัวของพวกเรา มีแต่ของเขาที่เราไม่รู้รายละเอียดว่ามีอะไร ก็มีเรื่องที่เขาต้องชี้แจงหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ในกระทรวงมหาดไทย เช่นที่ดิน ซึ่งตนคิดว่าเขาควรจะไปเตรียมตัวแก้ปัญหาของตัวเองก่อนดีกว่า
เมื่อถามว่า มองว่าการเปิดอภิปรายครั้งนี้เร็วไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็แล้วแต่ มีสิทธิ์ก็เปิดได้ เราไม่ได้กังวล ทำงานเต็มที่
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ เพราะเจอทั้งศึกนอกและศึกใน นายภูมิธรรม กล่าวว่า มั่นใจในเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าไม่มั่นใจจะตั้งรัฐบาลได้อย่างไร
เมื่อถามยํ้าว่า มั่นใจว่าเสียงไม่แตกแถวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีแต่สื่อที่กลัวแตกแถว แต่รัฐบาลไม่เคยกลัว จะเดินหน้าต่อ
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน ว่า ยังไม่ได้กำหนด ที่จริงแล้วหากถามตน อาจจะตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่วิปต้องตัดสินใจ ซึ่งมีการพิจารณาผ่านทางวิป และเราก็ต้องเคารพ โดยนำนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อยู่ในวิปรัฐบาล ดังนั้น เมื่อมีการตัดสินใจในการเลื่อนออกไป เราก็ยอมรับ ซึ่งก็เป็นการดี จะได้มีเวลาในการชี้แจง
เมื่อถามว่า ร่างกฎหมายจะกลายเป็นหมันหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อาจจะต้องมีการพูดคุยสื่อสารกันให้มากขึ้น คงไม่เป็นหมันอยู่แล้ว เพราะกฎหมายยังคงอยู่ในขั้นตอนของสภา การเลื่อนระเบียบวาระ ตนตอบไม่ได้ เพราะยังไม่มีกำหนด เมื่อมีการเลื่อนระเบียบวาระ ก็จะได้เห็นอีกครั้งว่าเลื่อนไปอยู่ตรงจุดไหนในระเบียบวาระ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเข้าอยู่ดี แต่จะเข้าเมื่อไหร่ หากเวลานั้นมาถึง ก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับในสภา และลงมติผ่าน
เมื่อถามว่าเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล จะเพียงพอในวาระรับหลักการหรือไม่ เนื่องจากพรรคประชาชาติ ประกาศจะไม่รับ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราก็ต้องมั่นใจ หากจะเอาเข้า วันนี้นายกรัฐมนตรีก็เดินหน้าในการฟอร์ม 'รัฐบาล อิ๊งค์ 2' เมื่อมีการจัดตั้ง ครม.ขึ้นมา เราก็มีความมั่นใจว่าเรามีเสียงเพียงพอข้างมากในสภา จึงจะสามารถเดินหน้ากฎหมายต่างๆ ได้ แน่นอนว่ากฎหมายแต่ละฉบับอาจมีความแตกต่างกัน ซึ่งคงต้องพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน หากมีการลงมติจริง เราก็เชื่อมั่นว่า เสียงเรามีมากเพียงพออยู่แล้ว เกินครึ่งไปเยอะพอสมควร เพียงพอต่อการเดินหน้ากฎหมายใดๆ ก็ตาม