Night Recap Gold Spot 27-06-2568
แนวโน้มราคาทอง
รอเก็งกำไรระยะสั้น
- ตลาดจับตาดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล จาก สหรัฐฯ คืนนี้
Gold spot
สูงสุด - 3,327 ดอลลาร์
ต่ำสุด - 3,281 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด - 51,100 บาท
ต่ำสุด - 50,750 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองโลกปรับฐานลงต่อเนื่อง จากการที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ อาจขยายเวลาการระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ที่กำหนดไว้ 90 วัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 9 ก.ค.นี้ โดยแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในการแถลงข่าวว่า “กำหนดเส้นตายดังกล่าวไม่เร่งรีบถึงขั้นวิกฤต โดย ปธน.ทรัมป์สามารถยื่นข้อเสนอให้กับประเทศคู่ค้าได้ แต่หากประเทศเหล่านั้นไม่ยอมตกลงภายในระยะเวลาที่กำหนด ทรัมป์สามารถกำหนดภาษีนำเข้าให้อัตราที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ” นอกจากนี้ ทางด้าน
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อว่า จีนตกลงจะขนส่งแร่หายากให้กับสหรัฐฯ และเมื่อจีนดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าว สหรัฐฯ ก็จะยกเลิกมาตรการตอบโต้ ในขณะที่คืนนี้ตลาดยังจับตาตัวเลขดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาปรับดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
เวลา 19.30น. สหรัฐฯ เตรียมเผยดัชนีการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานเดือน พ.ค. เทียบรายเดือน / รายปี , ดัชนีการบริโภคส่วนบุคคลเดือน พ.ค. เทียบรายเดือน / รายปี และเวลา 21.00น. เตรียมเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย ม.มิชิแกน เดือนมิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกในภาพใหญ่ยังมีแนวโน้ม Sideway Down ปรับตัวลงต่อเนื่อง คาดการณ์ทองโลกมีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้นจากแนวรับที่ระดับ 3,265 ดอลลาร์ แต่หากราคาทองโลกไม่สามารถฟื้นตัวจากแนวรับดังกล่าวได้ ทองโลกอาจปรับฐานลงต่อ
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,265 และ 3,245 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,305 และ 3,325 ดอลลาร์
ในภาพใหญ่ ราคาทองโลกยังคงปรับฐานลงต่อเนื่อง แต่ระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวกลับ จึงแนะนำรอซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากแนวรับที่ระดับ 3,265 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 3,305 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 3,245 ดอลลาร์ลงไป
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 50,400 และ 50,100 บาท
แนวต้าน 50,900 และ 51,200 บาท
ราคาทองคำในประเทศปรับฐานลง ขณะที่ค่าเงินบาทช่วยพยุงราคาทองไม่ให้ปรับฐานลงแรงมากนักจากปัจจัยในประเทศ จึงแนะนำรอซื้อสะสมจากแนวรับเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นที่ระดับ 50,400 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 50,900 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 50,100 บาทลงไป