โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

ม.พะเยากับวัตถุดิบอาหารทางเลือกใหม่เพิ่มรายได้และส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง

เดลินิวส์

อัพเดต 28 มิถุนายน 2568 เวลา 20.10 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
งานวิจัยเรื่อง “เกสรเทียมจากเนื้อไก่ ได้รับรางวัลเหรียญทองระดับดีเด่น (อันดับ 1)” จากเวทีเดียวกับผลงานซอสปรุงรสหมัก ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำนวัตกรรมเชิงลึกที่พัฒนาขึ้นในห้องเรียนไปต่อยอดสู่การเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสม ใช้งานได้จริง และสนับสนุนการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในระดับรากฐาน

ปัจจุบันนี้เป็นยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารและภาวะโลกร้อน ปัญหาการขาดแคลนแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนกำลังเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้น การค้นหาแหล่งโปรตีนใหม่ที่ปลอดภัย ยั่งยืน และ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงกลายเป็นภารกิจสำคัญของนักวิจัยและภาคอุตสาหกรรมอาหาร หนึ่งในทางเลือกที่เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ "แมลง" ซึ่งรวมถึง "ผึ้ง" โดยเฉพาะในรูปแบบของตัวอ่อนหรือดักแด้ที่อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดี กรดอะมิโนจำเป็น วิตามิน และ ไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในหลายพื้นที่ทั่วโลกโดยเฉพาะในเอเชีย แอฟริกา และ ละตินอเมริกา ผึ้งตัวอ่อนนั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นอาหารพื้นถิ่นมานานนับศตวรรษ เพราะ โปรตีนสูง ย่อยง่าย และ รสชาติดี อย่างไรก็ตาม คำถามที่ตามมาคือ “ในเมื่อเรายังมีอาหารให้เลือกหลากหลาย แล้วเราจำเป็นต้องกินผึ้งจริงหรือเพราะเมื่อเรากล่าวถึงการบริโภคผึ้ง หลายคนอาจรู้สึกแปลกใจ หรือ แม้กระทั่งไม่เห็นด้วยในทันที เนื่องจากเรามักมองว่าผึ้งเป็นแมลงที่มีประโยชน์ในด้านการผสมเกสร และการผลิตน้ำผึ้งมากกว่าที่จะเป็น “อาหาร” ของมนุษย์ ดังนั้นคำตอบอาจไม่ใช่เรื่องของ "จำเป็นหรือไม่” อย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นการหาแนวทางในการใช้ผึ้งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกเพื่อลดการพึ่งพาเนื้อสัตว์ดั้งเดิมซึ่งใช้ทรัพยากรมาก และปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับสูง นอกจากนี้การเลี้ยงผึ้งเพื่อเป็นแหล่งโปรตีนเสริมกำลังกลายเป็นโอกาส

ดร.ขรรค์ชัย ดั้นเมฆ เปิดเผยว่าในการสร้างความมั่นคงทางอาหารระดับชุมชน และ อาจเป็นทางรอดหนึ่งของมนุษยชาติในวันที่ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ประเด็นนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสะท้อนถึงความท้าทายที่แท้จริงของเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทยที่ฤดูกาลการออกดอกของพืชให้น้ำหวานมีเพียงไม่กี่เดือนในรอบปี ทำให้การเก็บน้ำผึ้งเชิงพาณิชย์เกิดขึ้นได้เพียง 1-2 ครั้งต่อปี ขณะที่ตลอดทั้งปีนั้นเกษตรกรยังคงต้องเลี้ยงดูผึ้งพันธุ์จำนวนมาก ซึ่งหมายถึงต้นทุนด้านแรงงาน อาหาร และ เวลา โดยไม่มีรายได้ตอบแทนในช่วงนอกฤดูกาล จึงเกิดคำถามว่า ถ้าเราสามารถบริโภคตัวอ่อนผึ้งได้แล้ว เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากผึ้งตัวเต็มวัยได้อย่างไร เพราะผึ้งตัวเต็มวัยแม้จะไม่เคยถูกมองว่าเหมาะสำหรับบริโภคโดยตรง แต่แนวคิดใหม่ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและอาหารโปรตีนทางเลือกนั้นได้เปิดโอกาสให้นักวิจัยพัฒนาการแปรรูปผึ้งตัวเต็มวัยเพื่อเป็นอาหารได้ เช่น การหมักผึ้งตัวเต็มวัยเป็นซอสปรุงรส ผลงานวิจัยนี้จึงเป็นการใช้ประโยชน์ผึ้งตัวเต็มวัยสู่การใช้จริง ลดของเสียจากกระบวนการเลี้ยงผึ้ง และ อาจกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างรายได้เสริมที่ส่งเสริมความยั่งยืนในระบบเกษตรของไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นจากคำถามที่ว่า “เราจะทำอย่างไรกับผึ้งตัวเต็มวัย อาจต้องเปลี่ยนเป็น “เราจะใช้ประโยชน์จากผึ้งตัวเต็มวัยให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศสูงสุดได้อย่างไร” ซึ่งเป็นโจทย์วิจัยที่ท้าทายและน่าต่อยอดทั้งในระดับฟาร์ม ชุมชน และสังคมโลกต่อไปในอนาคต

ด้านรศ.ดร.โชค โสรัจกุล กล่าวว่า ทีมวิจัยได้ตั้งโจทย์วิจัยเพื่อหาวิธีการใช้ประโยชน์จากผึ้งตัวเต็มวัยที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในเชิงเศรษฐกิจ โดยพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้ผึ้งตัวเต็มวัยซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ คือ “ซอสปรุงรสหมักจากผึ้งพันธุ์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมวิจัยได้ใช้ความรู้ทางชีววิทยาและเทคโนโลยีชีวภาพในกาใช้จุลินทรีย์เฉพาะ เช่น Aspergillus oryzae หมัก และ ย่อยโปรตีนจากผึ้งด้วยเพื่อสร้างกรดอะมิโนและสารที่ให้กลิ่นรสธรรมชาติ ก่อนนำไปผลิตเป็นซอสปรุงรสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ผลงานดังกล่าวได้ผ่านการ ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ และอยู่ระหว่าง การยื่นจดอนุสิทธิบัตร เพื่อคุ้มครององค์ความรู้ต้นแบบซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมาย SDG 9: การส่งเสริมนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานตามโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ของมหาวิทยาลัยพะเยาที่มุ่งส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนที่นำโจทย์จากภาคสนามมาใช้ในการเรียนการสอนจริง เพื่อให้นิสิตได้พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ และต่อยอดเป็นผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริงตัวอย่างในกรณีนี้ คือ การนำนวัตกรรมอาหารเสริมผึ้งไปถ่ายทอดสู่ระดับฟาร์ม ซึ่งนิสิตระดับปริญญาตรีได้ลงพื้นที่ร่วมมือกับเกษตรกรต้นแบบ พัฒนาให้เป็นกระบวนการผลิตที่สามารถทำได้จริงในระดับครัวเรือนหรือวิสาหกิจชุมชน ช่วยสร้างรายได้เสริมในช่วงนอกฤดูเก็บน้ำผึ้ง และเป็นตัวอย่างของการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ ด้านการศึกษาที่มีคุณภาพการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และ การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้นวัตกรรมนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารผ่านการสร้างแหล่งโปรตีนทางเลือกซึ่งเชื่อมโยงกับการขจัดความหิวโหย รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย เกษตรกร และหน่วยงานสนับสนุนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมที่สะท้อนถึงความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จากผลงานดังกล่าวทำให้นิสิตที่เป็นศูนย์กลางของการทำงานจึงทำให้นวัตกรรม “ซอสปรุงรสหมักจากผึ้งพันธุ์ได้รับรางวัลเหรียญเงิน” จากการประกวด ผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา ประจำปี 2568 กลุ่มที่ 1: ด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน 2568 โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ถือเป็นตัวอย่างของการนำนวัตกรรมเชิงลึกมาพัฒนาเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อใช้ได้จริงในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกันเมื่อเกิดความต้องการใช้ผึ้งตัวเต็มวัยเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อผสมเกสร ผลิตน้ำผึ้ง หรือพัฒนาเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การเลี้ยงผึ้งให้ได้ปริมาณมากและคุณภาพดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะการจัดหาอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะ อาหารที่ดีจะช่วยให้ผึ้งเจริญเติบโตได้ดี แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ดังนั้น การพัฒนาอาหารเสริมและสูตรเกสรเทียมสำหรับผึ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้จึงเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงผึ้งให้ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ทีมวิจัยจึงได้พัฒนานวัตกรรม “เกสรเทียมสำหรับเลี้ยงผึ้งพันธุ์” โดยมีหลายสูตรที่แตกต่างกันตามแหล่งโปรตีนที่ใช้ เช่น สูตรจากถั่ว โปรตีนจากใบหม่อน และสูตรที่ใช้เลือดและโปรตีนจากสัตว์เป็นวัตถุดิบอย่างไรก็ตาม บางสูตรอาจมีขั้นตอนการเตรียมที่ยุ่งยาก หรือ มีต้นทุนสูงจากการใช้วัตถุดิบที่มีราคาสูง ทำให้ต้องพิจารณาเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมกับบริบทของเกษตรกรแต่ละพื้นที่ ประเด็นนี้ได้นำไปใช้เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของการเรียนการสอนของนิสิตสาขาเทคโนโลยีการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการคิด พัฒนา และ ทดสอบสูตรเกสรเทียมใหม่ ๆ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่หาได้ง่าย ทำซ้ำได้ ไม่ซับซ้อน และ สามารถนำไปใช้จริงได้ในพื้นที่โดยมีการทดลองใช้ร่วมกับฟาร์มเกษตรกรต้นแบบในภาคเหนืออย่างเป็นรูปธรรม

ส่งผลให้ผลงานวิจัยเรื่อง “เกสรเทียมจากเนื้อไก่ ได้รับรางวัลเหรียญทองระดับดีเด่น (อันดับ 1)” จากเวทีเดียวกับผลงานซอสปรุงรสหมัก ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำนวัตกรรมเชิงลึกที่พัฒนาขึ้นในห้องเรียนไปต่อยอดสู่การเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสม ใช้งานได้จริง และสนับสนุนการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในระดับรากฐาน ทั้งนี้ยังมี SDGs หลายๆข้อ สอดคล้องกับนวัตกรรมข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้นวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผึ้งในช่วงการขาดแคลนเกสรจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG 13) ดังนั้นจากคำถามเริ่มต้น คือ “ในเมื่อเรายังมีอาหารให้เลือกหลากหลาย แล้วเราจำเป็นต้องกินผึ้งจริงหรือ คำตอบ คือ เราอาจไม่จำเป็นต้องบริโภคผึ้งโดยตรงเสมอไป แต่ควรมองให้ลึกถึงศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากผึ้ง อย่างรู้คุณค่าในทุกมิติ โดยเฉพาะผึ้งตัวเต็มวัยซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นของเหลือจากระบบการผลิตนั้นสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีมูลค่าที่สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมด้านอาหารโปรตีนได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ซอสปรุงรสหมักจากผึ้งพันธุ์ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดของเสียแต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรบนบก (SDG 15) และ ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคเกษตรอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ดร.ขรรค์ชัย และ รศ.ดร.โชค รวมถึงทีมนิสิตสาขาเทคโนโลยีการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยพะเยา ทุกคนที่มีส่วนร่วมในโครงการวิจัยจะทำการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้เกิดโอกาสที่มากที่สุดระหว่างชุมชนและมหาวิทยาลัยกันต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

เผย ‘นิชิกายะ’ ตกเก้าอี้กุนซือช้างศึก ไม่ใช่แค่เพราะแพ้ 5 นัดรวด

18 นาทีที่แล้ว

จีนเดินหน้า เสริมสร้างความร่วมมืออีคอมเมิร์ซกับนานาประเทศ

35 นาทีที่แล้ว

‘เลขาฯนายกฯ’ เผยโผครม.รอโปรดเกล้าฯ หลัง ‘เลขาฯครม.’ เข้าพบ ‘นายกฯอิ๊งค์’

57 นาทีที่แล้ว

‘ภัทรพงษ์’ ผิดหวังนายกฯไปถึงเชียงรายแต่หนีไม่ตอบปัญหาสารพิษ ‘น้ำกก-สาย’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความภูมิภาคอื่น ๆ

นอภ.ไพรบึง สั่งลุยปราบแก๊งค้ายา สลายเครือข่ายเอเย่นต์ยานรก

สยามรัฐ

ระนอง จัดเวทีขนาดเล็ก สำหรับการชุมนุมปราศรัยปกป้องอธิปไตย และอ่านแถลงการณ์ให้นายกรัฐมนตรีลาออก

สยามรัฐ

ตลาดโรงเกลือเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าชายแดนปิดร้าน ด้านชาวกัมพูชาทยอยกลับประเทศ

สยามรัฐ

รองแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม มอบของและเยี่ยมให้กำลังใจทหารและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่

สยามรัฐ

สุรินทร์ ช้างพลายแต่งชุดทหาร บุกปราสาทตาเมือนธม มอบของและให้กำลังใจทหาร พร้อมมอบตะขอช้างให้แม่ทัพด้วย

สยามรัฐ

รองผู้ว่าฯนราธิวาส มอบกระเช้าความห่วงใยผู้ว่าฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

สยามรัฐ

รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงการคลัง ลงพื้นที่กาญจนบุรี

สยามรัฐ

สตูล “28 ปี แห่งความภาคภูมิใจ วิทยาลัยการอาชีพละงู” คว้ารางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปี 2566

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...