DUSIT คืนพื้นที่สีเขียวให้ กทม. ชวนคนไทย “ตั้งชื่อสวน” ชิงตั๋วบิน+โรงแรมในญี่ปุ่น
เดือนสิงหาคม 2568 ชาวกรุงเตรียมมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มให้สดชื่นเต็มปอด เพราะ “ดุสิตธานี” หรือ DUSIT เตรียมเปิด สวนลอยฟ้า (Roof Park) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ขนาด 7 ไร่ พื้นที่รวม 11,200 ตร.ม. จำนวน 4 ชั้น (ชั้น 4-7)
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Dusit Central Park เชื่อมกับ 3 ตึกมิกซ์ยูสข้างในทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า และตึกสำนักงาน แต่ได้ให้พื้นที่สวนดังกล่าว เป็นสาธารณประโยชน์ ที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้ได้นั่นเอง
“เราตั้งเป้าให้สวนลอยฟ้านี้ เทียบเคียงสวนสาธารณะระดับโลกอย่าง Central Park ในมหานครนิวยอร์ก และ Hyde Park ในมหานครลอนดอน ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของทุกคนที่ตั้งอยู่บน Prime Location ใจกลางเมือง“ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าว
ทั้งนี้ ไฮไลต์ของสวนลอยฟ้าแห่งนี้ มีการออกแบบรองรับการไลฟ์สไตล์หลายรูปแบบ ทั้งออกกำลังกาย พักผ่อน หรือการทำกิจกรรมในครอบครัวและสัตว์เลี้ยง เช่น
พื้นที่วิ่งเทรล (Natural Trail)
โซนสำหรับเด็ก (Kids Zone)
พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pets Area)
พื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารได้ (Food Passage)
พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ อาทิ สวนรวบรวมพันธุ์ไม้ ส่วนหนึ่งนำมาจากวรรณคดีไทยทั้งนิราศสุพรรณ นิราศภูเขาทอง ผนวกกับพันธุ์ไม้ไทยดั้งเดิม ต้นไม้ประจำถิ่นกรุงเทพฯ อย่างมะกอกน้ำ
“ด้านระบบนิเวศได้วางคอนเซ็ปต์ธรรมชาติบำบัด ที่ปราศจากสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง หรือ คลอรีน ทำให้พื้นที่สีเขียวแห่งนี้เป็นบ้านที่เหมาะสมสำหรับทั้งแมลงปอ แมลงทับ ผีเสื้อ และกระรอก เป็นต้น รวมทั้งในอนาคตสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่”
[caption id="attachment_1528041" align="alignnone" width="1707"]
โซนพื้นที่ Roof Park ของ ดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค[/caption]
อย่างไรก็ดีDUSIT ได้จัดทำแคมเปญ ชวนคนไทยร่วมตั้งชื่อสวนลอยฟ้า “Roof Park at Dusit Central Park: The Landmark of Thai Pride” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568
โดยมีเงื่อนไขในการตั้งชื่อที่สะท้อนเนื้อหาและเรื่องราวเกี่ยวกับ
1. การเป็นพื้นที่สีเขียวที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ (Accessibility)
2. ความเป็นจุดหมายสำคัญของเมือง (Landmark)
3. ผสานความเป็นธรรมชาติกับความเป็นเมือง (Nature meets urban)
4.ความเป็นไทยร่วมสมัย (Contemporary Thai)
5.การเชื่อมต่อกับผู้คนและชุมชน (Community Connection)
ส่วนเกณฑ์การตัดสินประกอบด้วย 5 เกณฑ์ ดังนี้
การใช้แบรนด์ในชื่อ : สะท้อนอัตลักษณ์แบรนด์
ความคิดสร้างสรรค์ : ให้ความสำคัญกับตัวเลือดที่สร้างสรรค์ โดดเด่น
ความเกี่ยวข้องกับแนวคิดสวนลอยฟ้า : ชื่อต้องสะท้อนแก่นแท้ของสวนลอยฟ้า
แรงบันดาลใจและแหล่งที่มาของชื่อ : ชื่อต้องอธิบายได้ถึงแรงบันดาลใจ หรือแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน
ความน่าจดจำ : ชื่อต้องจำง่าย และออกเสียงง่าย
โดยผู้ชนะเลิศการประกวดจะได้รับรางวัลแพ็กเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น 3 วัน 2 คืน
ส่วนรางวัลชมเชย บัตรรับประทานอาหารที่ห้องอาหาร Pavilion โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ มูลค่า3,000 บาท จำนวน5 รางวัล
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียด กฎ และกติกาของแคมเปญประกวดตั้งชื่อ และประกาศผลผ่านช่องทางของดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค https://dusitcentralpark.com/
[caption id="attachment_1528045" align="alignnone" width="1567"]
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)[/caption]