โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

CREDITอวดกำไรไตรมาสนี้กว่า 1.8 พันล.

Manager Online

เผยแพร่ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ธ.ไทยเครดิต ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,828.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้งวดนี้ 1,828.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 44.0 สะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโต ภายใต้การบริหารงานที่ยังคงให้ความสำคัญกับความรอบคอบ เพื่อรองรับสภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT แจ้ง กำไรสุทธิไตรมาส 2 ปีนี้ว่ามีกำไรสุทธิ 925.2 ล้านบาท เติบโตกว่าร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2568 อยู่ที่ 1,828.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 44.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของธนาคารอยู่ที่ 0.75 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปี 2568 และ 1.48 บาทต่อหุ้นในงวดครึ่งปีแรก สะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโต ภายใต้การบริหารงานที่ยังคงให้ความสำคัญกับความรอบคอบ เพื่อรองรับสภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโต มาจากการที่ธนาคารยังคงรักษาการขยายตัวของยอดเงินให้สินเชื่อรวม ซึ่งอยู่ที่ 171,661.8 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธนาคารสามารถเพิ่มปริมาณสินเชื่อได้ในกลุ่มหลักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจ Micro SME (MSME) เติบโตที่ร้อยละ 14.3 สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกันขยายตัวร้อยละ 13.3 และสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นที่ร้อยละ 66.6 นอกจากนี้ ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นยังปรับตัวลดลงร้อยละ 36.7 จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่ออย่างระมัดระวังของธนาคาร รวมถึงมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งมีส่วนช่วยให้คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นแม้อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) จะลดลงจากปีก่อน แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 7.6

ทั้งนี้ ในด้านการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารยังบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (Gross NPLs ratio) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเท่ากับร้อยละ 4.3 ขณะเดียวกัน อัตราส่วนการกันสำรองเพื่อครอบคลุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 154.4 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอย่างระมัดระวัง

“แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ธนาคารไทยเครดิตยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับความรอบคอบและมีวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด โดยในปี 2568 ธนาคารยังมีความมั่นใจในการตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระดับเลขสองหลัก พร้อมควบคุมอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPLs) ให้อยู่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเติบโตที่ยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ผ่านความเข้าใจและเข้าถึงลูกค้า เคียงข้างเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้เติบโต อีกทั้งเป็นการสร้างความเท่าเทียมทางการเงิน”

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ที่ผ่านมา ธนาคารไทยเครดิตได้เปิดตัวสาขาเงินฝากแห่งใหม่บนถนนนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรุกขยายตลาดในหัวเมืองสำคัญของภาคเหนือ และรองรับการเติบโตทางธุรกิจในพื้นที่เศรษฐกิจหลักของภูมิภาคนี้ ธนาคารยังเดินหน้าขยายบริการทางการเงินอย่างครบวงจร ทั้งการรับฝากเงิน การให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย และการให้คำปรึกษาทางการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า โดยมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินที่สาขาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

นายรอยย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ธนาคารยึดมั่นในนโยบายส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้กับผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า ผ่านการให้บริการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นบริการที่ธนาคารนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันธนาคารได้ให้สินเชื่อแก่พ่อค้าแม่ค้าแล้วมากกว่า 250,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 21,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ธนาคารยังได้ร่วมเปิดตัว ‘Micro Pay e-Wallet โฉมใหม่’ ภายใต้แนวคิด “Customer-Centric & Inclusion-First” เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อเป็นตัวช่วยให้การค้าขายมีความสะดวก รวดเร็ว และยังช่วยบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสร้างให้เกิดพฤติกรรมทางการเงินในระบบดิจิทัล สร้างฐานลูกค้าใหม่ ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่อเนื่อง สู่การวางรากฐานทางวินัยการเงินของผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตในระบบเศรษฐกิจอย่างมั่นคง”

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

เริ่มสำนึกได้!สื่อนอกเผยคนเขมรชักกลัวอดตาย'ไม่มีบ้าน-ไม่มีงาน' หลังเดินทางกลับจากไทย

16 นาทีที่แล้ว

ใหญ่คับโลก!ทำเนียบขาวโวอียูคุกเข่ายอมศิโรราบทรัมป์ หลังตอบตกลงให้รีดภาษี15%

44 นาทีที่แล้ว

“ทรัมป์” ยอมปริปากอ้าง อดีตเศรษฐีอเมริกาไคร่เด็ก “เอปสตีน” ขโมย “เวอร์จิเนีย จุฟเฟร” ให้เลิกทำงานในสปาของ Mar-a-Lago

46 นาทีที่แล้ว

สื่อนอกตีข่าว!UNเรียกร้องกัมพูชา-ไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิง หลังต่างกล่าวหาอีกฝ่ายเป็นคนละเมิด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ราคาน้ำมันประจำวันที่ 31/07/68 อัปเดตจาก 4 สถานี

สยามรัฐ

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัส เพิ่มขึ้น 79 เซนต์

สยามรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐ ลดลง 171.71 จุด

สยามรัฐ

เตือนคนกรุง! ไม่แยกขยะจ่ายเพิ่ม 3 เท่า1 ส.ค. เปิดลงทะเบียน ได้สิทธิจ่ายถูก

เดลินิวส์

“ทรัมป์” ประกาศเก็บภาษีนำเข้าทองแดงบางรายการ 50% มีผล 1 ส.ค.68

การเงินธนาคาร

“เฟด” มีมติ 9 ต่อ 2 ตรึงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5

การเงินธนาคาร

“ทีเส็บ” เผยผลสำเร็จการจัดงาน “Global Coffee and Tea Association Forum 2025”

77kaoded

AI จะมาแย่งงานเราจริงไหม? หรือเราควรเปลี่ยนวิธีมองเสียใหม่?

TOJO NEWS

ข่าวและบทความยอดนิยม

PTTขายหุ้นกู้ Young Saver Bond คาดเปิดจองซื้อรอบแรก 5 ก.ย.นี้

Manager Online

หุ้นแกว่งผันผวน หลังชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด แต่ Fund Flow ยังไหลเข้า

Manager Online

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.38-ทรงตัวรอผลประชุมเฟด

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...